ประวัติ นารูโตะ
- อุซึมากิ (うずまき) มีความหมายว่า "ขดเป็นวง" เป็นสัญลักษณ์ของจิ้งจอกเก้าหางที่โดนผนึกไว้ที่ท้องของนารูโตะ
- นารูโตะ มีความหมายได้สองอย่างคือ น้ำวนหรือ คะมะโบะโกะ(ลูกชิ้นปลาชนิดหนึ่งที่มีสีขาวและชมพูโดยมีลวดลายเป็นวงตรงกลาง) นิยมใส่ในราเม็ง ซึ่งเป็นอาหารโปรดของนารูโตะ
นารูโตะ นินจาของหมู่บ้านโคโนฮะ สูง165ซม.หนัก40.1กก. ผู้ที่ถูกผนึกจิ้งจอกเก้าหางใว้ในท้องในช่วงที่เกิดใหม่ โดยโฮคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้ สละชีวิตตัวเองต่อสู้กับปีศาจจิ้งจอกเก้าหางและผนึกจิ้งจอกเก้าหางลงไปใน ตัวนารูโตะ จึงทำสามารถฝึกวิชาของรุ่นที่4ได้ง่ายกว่าใครๆอย่างกระสุนวงจักรและรวมทั้ง วิชาพื้นฐานด้วย เนื่องจากนารูโตะได้รับอิทธิพลมาจาก จิ้งจอกเก้าหางโดยตรงทำให้นารูโตะมีจักระที่เยอะมากกว่าคนอื่นในระดับเดียว กัน นารูโตะเติบโตมากับความโดดเดี่ยวที่ไม่มีพ่อและแม่ และมากกว่านั้นนารูโตะโดนนินจาผู้ใหญ่ในหมู่บ้านคนอื่นเกลียดชัง เนื่องจากหาว่ามีจิ้งจอกเก้าหางที่เคยมาทำลายหมู่บ้านอยู่ในร่างกาย อูมิโนะ อิรุกะอาจารย์ คนแรกของนารูโตะเป็นคนที่ให้ความสำคัญและดูแลเอาใจใส่นารูโตะเหมือนลูก อิรุกะเข้าใจความรู้สึกของนารูโตะเนื่องจากมีชีวิตในวัยเด็กเหมือนกัน ที่สูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก และ จิ้งจอกเก้าหางที่สิงอยู่ในร่างของนารูโตะนั้นเคยทำร้ายพ่อแม่ของครูอิรุกะ อีกด้วย 12 ปีต่อมานารูโตะตัวแสบของหมู่บ้านโคโนฮะเข้าสอบเพื่อเลื่อนเป็นเกะนินแต่ไม่ สำเร็จ และ ได้ถูกมิซึกิหลอกให้ไปเอาคัมภีร์ที่รวบรวมวิชานินจามาให้ เพื่อตนเองจะได้เอาไปและให้นารูโตะเป็นแพะรับบาป แต่ อิรุกะได้มาช่วยนารูโตะไว้ มิซึกิได้บอกว่าในตัวนารูโตะมีตัวจิ้งจอกเก้าหางอยู่ในตัว และ ได้ฆ่าพ่อแม่ของอิรุกะ นารูโตะได้เรียนวิชานินจากับซาซึเกะ,ซากุระ และ ครูคาคาชิซึ่งร่วมมือกันในภารกิจต่างๆในหน่วย 7 โดยเฉพาะภารกิจที่ช่วยคุ้มครองการสร้างสะพาน ตอนภาคสอง นารูโตะและซากุระพร้อมกันไปช่วย กาอาระ{คาเซคาเงะ}ที่โดนกลุ่มแสงอุษาลักพาตัวไป
ฉายา นินจาจอมเพี้ยน-นินจาอันดับหนึ่งด้านเหนือความคาดหมาย,แหกกฏ
นารูโตะเป็นนินจาที่ค่อนข้างจะโชคดีในเรื่องโชคลาภ เพราะในตอนที่จิไรยะเอาเงินของนารูโตะไปใช้เลยทำให้เงินหมด แต่เพราะไปเล่นเสี่ยงโชคขูดสลากครั้งเดียว นารูโตะสามารถเอาเงินกลับคืนมาได้หมด
วิชานินจาที่นารูโตะใช้
- คาถามหารัญจวญ เป็นคาถาที่ค่อนข้างต่ำทรามอย่างมากคือการแปลงร่างเป็นผู้หญิงเปลือยกายและมีเมฆคอยเซนเซอร์
- คาถา ฮาเร็ม จะเป็นการใช้คาถาแยกเงาพันร่างและคาถามหารัญจวญทำให้มีผุ้หญิงเปลือยกายมาก ผลก็คือทำให้คนนั้นเลือดกำเดาไหล ใช้ได้ดีกับจิไรยะ หรือ เซียนลามกเพื่อขอร้อง
- คาถาแยกเงาพันร่าง เป็นท่าที่นารูโตะใช้มากสุดไม่เหมือนคาถาแยกร่างเพราะแยกเงาพันร่างทำให้ทุก ตัวมีตัวตนเพราะถูกโจมตีก็จะสลายหายไปโดยปกติจะแบ่งอย่างน้อยให้ได้ห้าคน เพื่อใช้ท่าลูกเตะนารูโตะ แต่ถ้าใช้จักระจิ้งจอกเก้าหางก็จะแบ่งได้ถึงพันร่างโดยแต่ละร่างจะถูกแบ่ง จักระให้เท่ากันทุกร่าง
- กระสุนวงจักร(Rasengan) ท่าไม้ตายที่นารูโตะฝึกมาจากจิไรยะซึ่งนารูโตะใช้เวลาฝึกได้เร็วมากในช่วง ที่เขาสามารถทำกระสุนวงจักรได้นั้นได้ท้าพนันกับซึนาเดะว่าจะต้องเป็นเซียน ท่านี้ให้ได้ผลสรุปนารูโตะสามารถทำได้ นารูโตะนั้นเป็นคนที่ควบคุมจักระยากและไม่ค่อยได้ทันสังเกตศัตรูเลยทำให้ เป็นจุดอ่อนในช่วงนั้น แต่ด้วยคาถาแยกเงาพันร่างทำให้สามารถเฝ้าดูและสร้างพลังจากมือขวานารูโตะ ร่างจริงได้
- กระสุนวงจักรบอลยักษ์(Oodama Rasengan) กระสุนวงจักรที่ดัดแปลงแล้ว ใช้นพุ่งไปโจมตีพร้อมกัน 2 ร่าง
- คาถาลม กระสุนวงจักร (Fuuton: Rasengan) กระสุนวงจักรที่ดัดแปลงแล้ว ธาตุลม ถูกดัดแปลงเป็น คาถาลม กระสุนวงจักร
- ดาวกระจาย วงจักร(Fuuton: Rasenshuriken) (50%) ท่าไม้ตายสุดยอดที่นารูโตะก็จะได้รับผลกระทบด้วย โจมตีโดยทำลายเซลล์ของเหยื่อ ใช้การแปลงคุณสมบัติและแปลงลักษณะจักระ
- ดาวกระจายวงจักร (100%) ดาวกระจายวงจักรที่ใช้ตอนเป็นโหมดเซียน สามารถขว้างและขยายได้
- กระสุนวงจักรมหายักษ์ กระสุนวงจักรลูกใหญ่ที่ใช้ได้เฉพาะโหมดเซียน
- กระสุนวงจักรคู่ กระสุนวงจักรที่ใช้ 2 มือ และในแต่ละมือมีกระสุนวงจักร 1 ลูก
- คาถาอัญเชิญ คาถาที่ต้องทำสัญญากับสัตว์อัญเชิญด้วยเลือด โดยจะอัญเชิญเหล่ากบมาจากภูเขาเมียวโบคุซัน
- โหมด เซียน วิชาที่นารูโตะใช้ได้สมบูรณ์แบบที่สุดในบรรดาทุกคนที่ฝึกมา จะมีแววตาคล้ายกบ ขอบตาสีแดง พลังงานมากขึ้น โดยใช้จักระเซียน ซึ่งได้จากธรรมชาติ แต่ก็มีหลายคนฝึกไม่สำเร็จ จนรวมเป็นหนึ่งกับธรรมชาติ(กลายเป็นรูปปั้นหิน)
- จักระจิ้งจอก เก้าหาง เป็นจักระสีแดงอันชั่วร้ายของนารูโตะที่อยู่ในตัวมีพลังมหาศาลถูกใช้ครั้ง แรกตอนสู้กับฮาคุในศึกปกป้องสะพานซึ่งจักระจิ้งจอกเก้าหางมีมากมายมหาศาลที่ สุดในบรรดาสัตว์ทั้งเก้าหาง ซึ่งสามารถทราบได้ว่าคือหางที่ปลดปล่อยออกมา
ก่อนปลดปล่อยหางออกมามีพลังมากซึ่งนารูโตะมักจะใช้
1 หาง ตอนประทะกับซาสึเกะในร่างอักขระสำหรับนารูโตะยังพอควบคุมได้
2 หาง ตอนแค้นเดอิดาระที่ฆ่ากาอาระ ร่างแยกจะร้อนจนหายไป ควบคุมตัวเองไม่ได้,คาดว่ายังกลายร่างไม่เสร็จ
3 หาง ควบคุมตัวเองแทบไม่ได้ มีพลังที่น่ากลัว
4 หาง เสียสติ ร่างกายคลอบคลุมไปด้วยเลือด มีพลังที่น่ากลัว เพราะแค้นโอโรจิมารุที่เอาตัวซาสึเกะไป
5 หาง ?
6 หาง เกิดจากแค้นที่เพนทำร้ายซากุระ รูปร่างคล้ายตอน 4 หางแต่มีกระดูกคลอบคลุมร่างกายด้วย และมี 6 หาง และสามารถทำลาย ผนึกสกด(สร้อยคอของซึนาเดะ)ได้
7 หาง ?
8 หาง ร่างที่ใกล้เคียงกับจิ้งจอกเก้าหางที่สุด เริ่มมีกล้ามเนื้อ และเมื่อถึงหางนี้ รุ่นที่ 4 จะโผล่มาในตัวนารูโตะ
9 หาง ตอนนั้นนารูโตะได้เข้าสู่หางที่ 9 แต่รุ่นที่ 4 ได้มาขัดขวางเสียก่อน (คาดว่าจะกลายเป็นจิ้งจอกเก้าหาง)
ประวัติ ซาสึเกะ
NAME: Uchiha Sasuke (อุจิฮะ ซาสึเกะ)
ปรากฏตัวครั้งแรก : Manga Chapter 3 - Anime Episode1
สังกัด : โคโนฮะงาคุเระ [ในภาคสองไม่มีสังกัด]
ระดับ : ภาค 1 เกะนิน
ระดับ : ภาค 2 นินจาถอนตัว (Missing Nin)
อายุ : ภาค 1 12-13 ปี
อายุ : ภาค 2 15 ปี
อาจารย์ผู้รับผิดชอบดูแล : Hatake Kakashi (ฮาตาเกะ คาคาชิ)
สมาชิกทีม : ทีม 7 อุซึมากิ นารูโตะ , ฮารุโนะ ซากุระ , อุจิฮะ ซาสึเกะ
เกิดวันที่ : 23 กรกฏาคม
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 153.2 cm
น้ำหนัก : 43.5 kg
ชื่อจริงของ Sasuke(ซาสึเกะ) มาจากชื่อของนินจาในตำนาน ซารุโทบิ ซาสึเกะ
นามสกุลของเขา Uchiha(อุจิฮะ) สามารถอ่านออกเสียงได้ว่า Uchiwa(อุจิวะ) ก็ได้ ซึ่งหมายความว่าพัดกระดาษ นั่นก็คือสัญลักษณ์ของตระกูลอุจิฮะนั่นเอง ในอดีตกาลของญี่ปุ่น อุจิวะนั้นใช้สำหรับการแสดงยศศักดิ์ว่าเป็นผู้สูงส่ง เป็นของที่ระลึก หรือใช้ป้องกันเหล่าทหารรบจากลูกธนู และที่สำคัญ พัดเหล่านั้นสามารถใช้ทำเป็นพัดติดเพลิง สร้างความร้อนไหม้ศัตรู นั่นเป็นเหตุผลที่ตระกูลอุจิฮะสามารถใช้คาถาไฟได้นั่นเอง
ชีวิตในวัยเด็กของซาสึเกะเป็นความทรงจำอันเลวร้ายของเขา ลูกชายคนที่สองของหัวหน้ากรมตำรวจแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ ซาสึเกะ เขาโตขึ้นมาโดยการเป็นเงาของอิทาจิพี่ชายของขา อิทาจิเป็นอัจฉริยะนินจาที่สามารถเรียนจบนินจาอคาเดมี่ได้เมื่อเพียงอายุ 7 ปี และสามารถใช้เนตรวงแหวนได้ตอนอายุ 8 ปี พออายุ 10 ปีก็เลื่อนขั้นกลายเป็นจูนิน และได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยลับย่อยในตอนอายุ 13 ปี ตระกูลอุจิฮะภูมิใจในตัวพี่ชายของเขามาก รวมทั้งพ่อที่ชื่นชมในตัวของอิทาจิอยู่เสมอ นั่นเลยทำให้ซาสึเกะอิจฉาในความสามารถของพี่ชายของตน จึงพยายามจะฝึกฝนความสามารถของตัวเองให้ไล่ทันอิทาจิทัน แต่ก็ดูท่าว่าเขากับพี่ชายยังห่างกันอีกมาก ซาสึเกะพยายามฝึกคาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ให้ได้ เขาหวังว่าอย่างน้อยจะได้รับคำชมจากพ่อ ที่ว่า สมกับเป็นลูกพ่อ เหมือนกับที่พี่เขาได้รับอยู่เสมอทุกครั้ง
อิทาจิในวัยเด็กของซาสึเกะเป็นพี่ชายที่แสนดี เขามักช่วยซาสึเกะฝึกวิชาอยู่เสมอและยังยอมที่จะละทิ้งภารกิจเพื่อไปงานวัน ปฐมนิเทศที่นินจาอคาเดมี่ด้วย และทั้งยังมีความสามารถสูงจนถึงขั้นอัจฉริยะ นั่นทำให้ซาสึเกะอยากเป็นเหมือนพี่ชายของตน จนกระทั่งพักหลัง หลังจากที่คนในตระกูลเริ่มสงสัยว่าอิทาจิเป็นคนฆ่า ชิซุย เพื่อนสนิทของตน ทำให้ซาสึเกะเริ่มสังเกตได้ถึงท่าทางที่เปลี่ยนไปของพี่ และเขายังได้เห็นเนตรแปลกๆบางอย่างจากดวงตาของอิทาจิอีกด้วย หลังจากนั้น อิทาจิและพ่อก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย หลังจากที่ซาสึเกะสามารถฝึกคาถาเพลิงไฟลูกบอลยักษ์ได้สำเร็จ เขาได้รับคำชมจากพ่อว่าสมกับที่เป็นลูกพ่อ และยังได้คำเตือนจากพ่ออีกด้วย ว่าอย่าเอาอย่างพี่เขา...
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน วันหนึ่งที่ซาสึเกะรีบกลับมาบ้านหลังจากที่เรียนเสร็จ แต่ทุกอย่างดูผิดปกติไป ไม่มีร่องรอยของคนในตระกูลหลงเหลืออยู่เลย เขารีบตรงไปหาพ่อและแม่ และภาพที่ซาสึเกะได้เห็นอยู่ต่อหน้า คืออิทาจิที่ฆ่าพ่อและแม่ของเขา และฆ่าคนในตระกูลทุกๆคน อิทาจิบอกกับซาสึเกะว่า คนอย่างแกไม่มีค่าพอที่จะให้ฆ่าหรอก เจ้าน้องชายหน้าโง่ ถ้าอยากจะฆ่าชั้นนักละก็เกลียดชั้นสิ! แค้นชั้นสิ! แล้วทนทรมานมีชีวิตต่อไป หนีหัวซุกหัวซุนเข้า และอิทาจิก็ยังบอกที่ชุมนุมลับของตระกูลอุจิฮะให้กับซาสึเกะเพื่อให้เขาได้ รู้ถึงความลับที่แท้จริงของวิชาเนตรของตระกูลอุจิฮะ ที่ในปัจจุบันมีเพียงคนสามคนเท่านั้นที่ใช้มันได้
เราคงรู้ๆกันอยู่ว่าซาสึเกะมีพื้นฐานจักระธาตุไฟ และธาตุสายฟ้า ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถใช้พันปักษาได้
ในช่วงที่ซาสึเกะเป็นเด็ก เขาเป็นอัจฉริยะในชั้นเรียนที่นินจาอคาเดมี่ และยังเป็นทายาทผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของตระกูลอุจิฮะในหมู่บ้านโคโนฮะ ตระกูลอุจิฮะมีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนิ นจา นั่นคือ เนตรวงแหวน พวกเขายังสามารถใช้คาถาไฟได้เป็นอย่างดี และตระกูลอุจิฮะยังเป็นผู้ก่อตั้งกรมตำรวจแห่งโคโนฮะงาคุเระอีกด้วย เป็นที่รู้ๆกันว่าซาสึเกะคือหนึ่งในสองผู้เหลือรอดของตระกูลอุจิฮะใน ปัจจุบัน
เมื่อซาสึเกะจบการศึกษาที่นินจาอคาเดมี่และเลื่อนขั้นกลายเป็นเกะนิน เขาได้อยู่ทีมสิบร่วมกับ นารูโตะ และ ซากุระ ภายใต้ความดูแลรับผิดชอบของคาคาชิ ในช่วงแรก ซาสึเกะมักคิดว่านารูโตะกับซากุระเป็นตัวถ่วง แต่หลังจากการทำภารกิจต่อสู้กับซาบุสะ และฮาคุ ซาสึเกะกับนารูโตะเริ่มเป็นทีมเวิร์คที่ดีกันมากขึ้น ถึงกับที่เขายอมสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยนารูโตะไว้จากอาวุธสังหารของฮาคุ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ในช่วงการสอบจูนิน เข้าสู่ป่าแห่งความตาย ซาสึเกะถูกโอโรจิมารุฝังอักระไว้ที่ต้นคอ เพราะโอโรจิมารุสนใจในสายเลือดที่แข็งแกร่งและความสามารถของซาสึเกะ เขาและนารูโตะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับโอโรจิมารุ ทำให้พวกเขานอนเมือดสลบไปกว่าหลายวัน โดยมีซากุระคอยดูแลอยู่ ระหว่างนั้นนินจาจากโอโตะก็มาตามคำสั่งของโอโรจิมารุเพื่อให้ฆ่าซาสึเกะ นั่นทำให้ทีมอิโนะและร็อค ลีที่แอบดูอยู่ต้องลงมาช่วย แต่พวกเขาก็ยังต้านนินจาโอโตะไม่ไหว จนซาสึเกะฟื้นขึ้นมาและใช้พลังอักระที่โอโจริมารุมอบให้มาเป็นครั้งแรก พลังนั้นทำให้เขาสามารถหักแขนของนินจาโอโตะได้อย่างง่ายดาย
จนกระทั่งเข้าการประลองสอบจูนินรอบสุดท้าย ซาสึเกะได้ฝึกวิชาพันปักษากับคาคาชิ และถูกปิดผนึกอักระที่โอโรจิมารุมอบไว้ เขาได้ประลองกับกาอาระ ซึ่งเป็นนินจาจากซึนะที่มีความน่ากลัวแฝงอยู่ พันปักษาของเขาสามารถทะลวงโล่ป้องกันของกาอาระเข้าไปได้ จนทำให้พวกนินจาซึนะเริ่มเคลื่อนไหว และแผนการถล่มหมู่บ้านโคโนฮะของนินจาโอโตะและนินจาซึนะก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซาสึเกะตามพวกกาอาระที่กำลังได้รับบาดเจ็บไป โดยมีซากุระ ชิกามารุ และนารูโตะ ตามหลังไป จนกระทั่งสุดท้ายแล้ว ซาสึเกะประชันกับกาอาระที่ค่อยๆถูกกลืนกินกลายเป็นสัตว์หางดี่ยว ทำให้ซาสึเกะแพ้อย่างราบคาบ แต่นารูโตะที่สามารถอัญเชิญกามะบุนตะมาได้กลับสามารถเอาชนะกาอาระได้
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซาสึเกะรู้สึกอิจฉาในความสามารถของนารูโตะ เขาออกเดินทางไปหาโอโรจิมารุกับสี่นินจาโอโตะ พวกนารูโตะได้รับภารกิจให้พาตัวซาสึเกะกลับมา นารูโตะกับซาสึเกะได้ต่อสู้กัน เป็นการต่อสู้อันดุเดือดของเขาทั้งสอง ซาสึเกะในสภาวะขั้นที่ 2 และนารูโตะในร่างจิ้งจอกเก้าหางที่หางแรกงอกออกมา สุดท้ายจบลงที่ความพ่ายแพ้ของนารูโตะที่ไม่สามารถชิงตัวซาสึเกะกลับมาได้ แต่ซาสึเกะก็ไม่เลือกที่จะฆ่านารูโตะเพราะเขาเลือกที่จะไม่เดินทางสายเดียว กับพี่ของเขา
ปรากฏตัวครั้งแรก : Manga Chapter 3 - Anime Episode1
สังกัด : โคโนฮะงาคุเระ [ในภาคสองไม่มีสังกัด]
ระดับ : ภาค 1 เกะนิน
ระดับ : ภาค 2 นินจาถอนตัว (Missing Nin)
อายุ : ภาค 1 12-13 ปี
อายุ : ภาค 2 15 ปี
อาจารย์ผู้รับผิดชอบดูแล : Hatake Kakashi (ฮาตาเกะ คาคาชิ)
สมาชิกทีม : ทีม 7 อุซึมากิ นารูโตะ , ฮารุโนะ ซากุระ , อุจิฮะ ซาสึเกะ
เกิดวันที่ : 23 กรกฏาคม
กรุ๊ปเลือด : AB
ส่วนสูง : 153.2 cm
น้ำหนัก : 43.5 kg
ชื่อจริงของ Sasuke(ซาสึเกะ) มาจากชื่อของนินจาในตำนาน ซารุโทบิ ซาสึเกะ
นามสกุลของเขา Uchiha(อุจิฮะ) สามารถอ่านออกเสียงได้ว่า Uchiwa(อุจิวะ) ก็ได้ ซึ่งหมายความว่าพัดกระดาษ นั่นก็คือสัญลักษณ์ของตระกูลอุจิฮะนั่นเอง ในอดีตกาลของญี่ปุ่น อุจิวะนั้นใช้สำหรับการแสดงยศศักดิ์ว่าเป็นผู้สูงส่ง เป็นของที่ระลึก หรือใช้ป้องกันเหล่าทหารรบจากลูกธนู และที่สำคัญ พัดเหล่านั้นสามารถใช้ทำเป็นพัดติดเพลิง สร้างความร้อนไหม้ศัตรู นั่นเป็นเหตุผลที่ตระกูลอุจิฮะสามารถใช้คาถาไฟได้นั่นเอง
ชีวิตในวัยเด็กของซาสึเกะเป็นความทรงจำอันเลวร้ายของเขา ลูกชายคนที่สองของหัวหน้ากรมตำรวจแห่งหมู่บ้านโคโนฮะ ซาสึเกะ เขาโตขึ้นมาโดยการเป็นเงาของอิทาจิพี่ชายของขา อิทาจิเป็นอัจฉริยะนินจาที่สามารถเรียนจบนินจาอคาเดมี่ได้เมื่อเพียงอายุ 7 ปี และสามารถใช้เนตรวงแหวนได้ตอนอายุ 8 ปี พออายุ 10 ปีก็เลื่อนขั้นกลายเป็นจูนิน และได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าหน่วยลับย่อยในตอนอายุ 13 ปี ตระกูลอุจิฮะภูมิใจในตัวพี่ชายของเขามาก รวมทั้งพ่อที่ชื่นชมในตัวของอิทาจิอยู่เสมอ นั่นเลยทำให้ซาสึเกะอิจฉาในความสามารถของพี่ชายของตน จึงพยายามจะฝึกฝนความสามารถของตัวเองให้ไล่ทันอิทาจิทัน แต่ก็ดูท่าว่าเขากับพี่ชายยังห่างกันอีกมาก ซาสึเกะพยายามฝึกคาถาเพลิงลูกบอลไฟยักษ์ให้ได้ เขาหวังว่าอย่างน้อยจะได้รับคำชมจากพ่อ ที่ว่า สมกับเป็นลูกพ่อ เหมือนกับที่พี่เขาได้รับอยู่เสมอทุกครั้ง
อิทาจิในวัยเด็กของซาสึเกะเป็นพี่ชายที่แสนดี เขามักช่วยซาสึเกะฝึกวิชาอยู่เสมอและยังยอมที่จะละทิ้งภารกิจเพื่อไปงานวัน ปฐมนิเทศที่นินจาอคาเดมี่ด้วย และทั้งยังมีความสามารถสูงจนถึงขั้นอัจฉริยะ นั่นทำให้ซาสึเกะอยากเป็นเหมือนพี่ชายของตน จนกระทั่งพักหลัง หลังจากที่คนในตระกูลเริ่มสงสัยว่าอิทาจิเป็นคนฆ่า ชิซุย เพื่อนสนิทของตน ทำให้ซาสึเกะเริ่มสังเกตได้ถึงท่าทางที่เปลี่ยนไปของพี่ และเขายังได้เห็นเนตรแปลกๆบางอย่างจากดวงตาของอิทาจิอีกด้วย หลังจากนั้น อิทาจิและพ่อก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย หลังจากที่ซาสึเกะสามารถฝึกคาถาเพลิงไฟลูกบอลยักษ์ได้สำเร็จ เขาได้รับคำชมจากพ่อว่าสมกับที่เป็นลูกพ่อ และยังได้คำเตือนจากพ่ออีกด้วย ว่าอย่าเอาอย่างพี่เขา...
หลังจากนั้นเพียงไม่นาน วันหนึ่งที่ซาสึเกะรีบกลับมาบ้านหลังจากที่เรียนเสร็จ แต่ทุกอย่างดูผิดปกติไป ไม่มีร่องรอยของคนในตระกูลหลงเหลืออยู่เลย เขารีบตรงไปหาพ่อและแม่ และภาพที่ซาสึเกะได้เห็นอยู่ต่อหน้า คืออิทาจิที่ฆ่าพ่อและแม่ของเขา และฆ่าคนในตระกูลทุกๆคน อิทาจิบอกกับซาสึเกะว่า คนอย่างแกไม่มีค่าพอที่จะให้ฆ่าหรอก เจ้าน้องชายหน้าโง่ ถ้าอยากจะฆ่าชั้นนักละก็เกลียดชั้นสิ! แค้นชั้นสิ! แล้วทนทรมานมีชีวิตต่อไป หนีหัวซุกหัวซุนเข้า และอิทาจิก็ยังบอกที่ชุมนุมลับของตระกูลอุจิฮะให้กับซาสึเกะเพื่อให้เขาได้ รู้ถึงความลับที่แท้จริงของวิชาเนตรของตระกูลอุจิฮะ ที่ในปัจจุบันมีเพียงคนสามคนเท่านั้นที่ใช้มันได้
เราคงรู้ๆกันอยู่ว่าซาสึเกะมีพื้นฐานจักระธาตุไฟ และธาตุสายฟ้า ซึ่งนั่นทำให้เขาสามารถใช้พันปักษาได้
ในช่วงที่ซาสึเกะเป็นเด็ก เขาเป็นอัจฉริยะในชั้นเรียนที่นินจาอคาเดมี่ และยังเป็นทายาทผู้เหลือรอดคนสุดท้ายของตระกูลอุจิฮะในหมู่บ้านโคโนฮะ ตระกูลอุจิฮะมีขีดจำกัดทางสายเลือดที่แข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกนิ นจา นั่นคือ เนตรวงแหวน พวกเขายังสามารถใช้คาถาไฟได้เป็นอย่างดี และตระกูลอุจิฮะยังเป็นผู้ก่อตั้งกรมตำรวจแห่งโคโนฮะงาคุเระอีกด้วย เป็นที่รู้ๆกันว่าซาสึเกะคือหนึ่งในสองผู้เหลือรอดของตระกูลอุจิฮะใน ปัจจุบัน
เมื่อซาสึเกะจบการศึกษาที่นินจาอคาเดมี่และเลื่อนขั้นกลายเป็นเกะนิน เขาได้อยู่ทีมสิบร่วมกับ นารูโตะ และ ซากุระ ภายใต้ความดูแลรับผิดชอบของคาคาชิ ในช่วงแรก ซาสึเกะมักคิดว่านารูโตะกับซากุระเป็นตัวถ่วง แต่หลังจากการทำภารกิจต่อสู้กับซาบุสะ และฮาคุ ซาสึเกะกับนารูโตะเริ่มเป็นทีมเวิร์คที่ดีกันมากขึ้น ถึงกับที่เขายอมสละชีวิตตัวเองเพื่อช่วยนารูโตะไว้จากอาวุธสังหารของฮาคุ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ในช่วงการสอบจูนิน เข้าสู่ป่าแห่งความตาย ซาสึเกะถูกโอโรจิมารุฝังอักระไว้ที่ต้นคอ เพราะโอโรจิมารุสนใจในสายเลือดที่แข็งแกร่งและความสามารถของซาสึเกะ เขาและนารูโตะได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้กับโอโรจิมารุ ทำให้พวกเขานอนเมือดสลบไปกว่าหลายวัน โดยมีซากุระคอยดูแลอยู่ ระหว่างนั้นนินจาจากโอโตะก็มาตามคำสั่งของโอโรจิมารุเพื่อให้ฆ่าซาสึเกะ นั่นทำให้ทีมอิโนะและร็อค ลีที่แอบดูอยู่ต้องลงมาช่วย แต่พวกเขาก็ยังต้านนินจาโอโตะไม่ไหว จนซาสึเกะฟื้นขึ้นมาและใช้พลังอักระที่โอโจริมารุมอบให้มาเป็นครั้งแรก พลังนั้นทำให้เขาสามารถหักแขนของนินจาโอโตะได้อย่างง่ายดาย
จนกระทั่งเข้าการประลองสอบจูนินรอบสุดท้าย ซาสึเกะได้ฝึกวิชาพันปักษากับคาคาชิ และถูกปิดผนึกอักระที่โอโรจิมารุมอบไว้ เขาได้ประลองกับกาอาระ ซึ่งเป็นนินจาจากซึนะที่มีความน่ากลัวแฝงอยู่ พันปักษาของเขาสามารถทะลวงโล่ป้องกันของกาอาระเข้าไปได้ จนทำให้พวกนินจาซึนะเริ่มเคลื่อนไหว และแผนการถล่มหมู่บ้านโคโนฮะของนินจาโอโตะและนินจาซึนะก็ได้เริ่มต้นขึ้น ซาสึเกะตามพวกกาอาระที่กำลังได้รับบาดเจ็บไป โดยมีซากุระ ชิกามารุ และนารูโตะ ตามหลังไป จนกระทั่งสุดท้ายแล้ว ซาสึเกะประชันกับกาอาระที่ค่อยๆถูกกลืนกินกลายเป็นสัตว์หางดี่ยว ทำให้ซาสึเกะแพ้อย่างราบคาบ แต่นารูโตะที่สามารถอัญเชิญกามะบุนตะมาได้กลับสามารถเอาชนะกาอาระได้
จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ซาสึเกะรู้สึกอิจฉาในความสามารถของนารูโตะ เขาออกเดินทางไปหาโอโรจิมารุกับสี่นินจาโอโตะ พวกนารูโตะได้รับภารกิจให้พาตัวซาสึเกะกลับมา นารูโตะกับซาสึเกะได้ต่อสู้กัน เป็นการต่อสู้อันดุเดือดของเขาทั้งสอง ซาสึเกะในสภาวะขั้นที่ 2 และนารูโตะในร่างจิ้งจอกเก้าหางที่หางแรกงอกออกมา สุดท้ายจบลงที่ความพ่ายแพ้ของนารูโตะที่ไม่สามารถชิงตัวซาสึเกะกลับมาได้ แต่ซาสึเกะก็ไม่เลือกที่จะฆ่านารูโตะเพราะเขาเลือกที่จะไม่เดินทางสายเดียว กับพี่ของเขา
Credit ประวัติ จาก : newmaster.exteen

ประวัติ ฮารุโนะ ซากุระ
ซากุระเป็นนินจาที่ฉลาด หลังจากที่ซากุระได้เดินทางร่วมทุกข์ร่วมสุขกันกับกลุ่ม 7 มานาน เธอตกหลุมรักซาซึเกะอย่าง มาก แต่รู้สึกกับ นารูโตะแค่เพื่อนที่สนิทมากๆเท่านั้น ในตอนท้าย ซาสึเกะ เป็นนินจาถอนตัวไปแล้ว นารูโตะ ก็บาดเจ็บจากการต่อสู้ เธอรู้สึก เสียใจมากที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย เธอจึงไปขอเป็นลูกศิษย์ของซึนาเดะ ซึ่งเป็นนินจาแพทย์ที่เก่งที่สุดในเรื่องใช้วิชารักษาคน เป็นนินจาที่มีพลังคล้ายๆกับอาจารย์ของเธอ ซึงซากุระนั้นมีพลังที่ทำลายล้างสูงเหมือนซึนาเดะ แค่เธอต่อยลงพื่นที่เดียวแผนดินก็แตกออกเป็นส่วนๆ แถมยังถนัดวิชาภาพลวงตาอีก
ฮารุโนะ ซากุระ สูง165หนัก43ก.ก.
ชื่อ"ซะกุระ" มาจากชื่อดอกซากุระ ดอกไม้ประจำชาติญี่ปุ่น และนามสกุล "ฮะรุโนะ" มาจากคำว่า ฮะรุ (春) แปลว่า ฤดูใบไม้ผลิ และ โนะ (野) แปลว่า ทุ่ง ซึ่งรวมความหมายถึง ทุ่งของดอกไม้ผลิใบ โดยในเนื้อเรื่องจะมีอยู่หลายครั้งที่ อิโนะ คุยกับซากุระว่า ซากุระยังเป็นเด็กเปรียบเหมือน ดอกไม้ที่ยังไม่ผลิใบ เมื่อโตขึ้นจะต้องสวยงาม
- คาถาบุปผามายา(ดอกซากุระ)
- คาถาพฤกษามายา(ต้นโมมิจิ)
- คาถาแพทย์
- คาถาระเบิดพลังช้างสาร
- คาถาคลายคาถาลวงตา
- คาถาสะท้อนคาถาลวงตา
- คาถาแพทย์ฟื้นฟูร่างกาย
- คาถาแพทย์วารีดูดพิษ
- คาถามีดจักระ
- คาถาดาบจักระ
- คาถาแพทย์วงอักขระถ่ายพลังจักระสร้างร่าง
- คาถาแพทย์สี่เหลี่ยมอักขระชูริเค็น4ทิศฟื้นฟู
- คาถาแพทย์แปดเหลี่ยมอักขระคืนชีพ
- คาถาแพทย์ย้ายเอ็นล้างกระดูก
- คาถาระเบิดหมัดพลังช้างสาร
- คาถาระเบิดเท้าพลังช้างสาร
- คาถาม่านไฟฟ้าป่วนประสาท
- หมัดทลายภูผา
- หมัดทลายปราณถล่มภูผา
- หมัดแยกพสุธา
- ฝ่ามือปิดปะทะพสุธา
- ฝ่ามือยกพสุธาทลายปถพี
- คาถาถ่ายแบ่งจักระ
- คาถาม่านพลัง4ทิศ
- ประวัติ คาคาชิ
- ฮาตาเกะ คาคาชิเป็นนินจาระดับโจนินแนวหน้าของหมู่บ้านโคโนฮะ อดีต เคยเข้าสังกัดนินจาอันบุ ผมสีขาวของคาคาชิได้รับสืบทอดมาจากพ่อของเขา (ฮาตาเกะ ซาคุโมะ) ซึ่งมีฉายาว่า "เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ" ซึ่งเป็นหนึ่งนินจาในตำนานของหมู่บ้านโคโนฮะ ได้รับเนตรวงแหวนจากอุจิวะ โอบิโตะเพื่อนร่วมทีม มอบให้ก่อนจะเสียชีวิต โดยได้รับการผ่าตัดจากฮารุโนะ รินในระหว่างภารกิจ ฮาตาเกะ คาคาชิ สูง 181 เชนติเมตร หนัก 67.5 กิโลกรัมจบการศึกษาที่โรงเรียนนินจา เมื่ออายุ 5 ปี เลื่อนขั้นเป็นจูนิน เมื่ออายุ 7 ปี เลื่อนขั้นเป็นโจนิน เมื่ออายุ 13 ปี คาถาที่ถนัด พันปักษา (คาคาชิเป็นคนคิดค้นขึ้นเอง) อาหารที่ชอบ ซุปมิโซะ ปลาทะเลเผาโรยเกลือ อาหารที่เกลียด ของทอดทุกชนิด (โดยเฉพาะเทมปุระ) กับ ของหวาน หนังสือเล่มโปรด อะจึ๊ย (หนังสือที่จิไรยะเขียนโดยดูผู้หญิงอาบน้ำ)
คาคาชิเป็นศิษย์ของโฮคาเงะรุ่นที่ 4 (ซึ่งเป็นคนผนึกจิ้งจอกเก้าหางไว้ในตัวของนารูโตะ) เพื่อนร่วมทีมคือ อุจิวะ โอบิโตะ (เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติภารกิจ) และ ฮารุโนะ ริน คาคาชิคลั่งไคล้การอ่านหนังสืออจึ๋ยฯมาก ดังนั้นหากเขายังอ่านไม่จบ แต่มีคนมาเล่าตอนจบของอจึ๋ยฯให้ฟัง เขาจะทนไม่ได้ (ประมาณว่าเสียอรรถรสในการอ่านนั่นแหละ) ซึ่งตรงนี้นับเป็นจุดอ่อนของคาคาชิเลยก็ว่าได้ (สังเกตจากตอนที่คาคาชิกลับมาทดสอบฝีมือของนารุโตะกับซากุระ หลังจากการฝึกวิชามา 2 ปี) และ คาคาชิได้ฝึกวิชาเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุบผาสำเร็จ แต่อิทาจิเคยพูดไว้ว่า"ถ้าไม่ใช่คนในตระกูลอุจิวะ ไม่สามารถเบิกเนตรนี้ได้" แต่คาคาชิก็ทำสำเร็จแม้ว่าจะยังใช้ได้ไม่คล่องก็ตาม ประมาณว่าใช้แล้วแรงหมดก๊อกเลยทีเดียวครอบครัวของคาคาชิแม่ของคาคาชิไม่ปรากฏในเนื้อเรื่อง แต่พ่อของคาคาชิคือ ฮาตาเกะ ซาคุโมะ นินจาอัจฉริยะซึ่งได้รับฉายาว่า "เขี้ยวสีขาวแห่งโคโนฮะ" เมื่อ 5 ปีก่อน พ่อของคาคาชิได้ไปปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดในฐานะหัวหน้าทีม เขาถูกบังคับให้ต้อง "เลือก" ระหว่างปฏิบัติภารกิจต่อ หรือ รักษาชีวิตลูกทีมไว้ ซาคุโมะเลือกช่วยชีวิตลูกทีมจึงจำใจสละภารกิจ (ซึ่งตามกฎห้ามละทิ้งภารกิจเด็ดขาด) จากเหตุการณ์ครั้งนั้นได้เกิดผลเสียตามมา ซาคุโมะถูกคนในหมู่บ้านตำหนิ สุดท้ายแม้กระทั่งเพื่อนร่วมทีมก็ว่าร้ายเขา ทำให้ซาคุโมะอ่อนล้าทั้งกายและใจ สุดท้ายก็ปลิดชีพตัวเองลงกำเนิดเนตรวงแหวนคาคาชิครูของคาคาชิคือ ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 4 มีเพื่อนร่วมทีมอีก 2 คนคือ อุจิวะ โอบิโตะ และ ฮารุโนะ ริน คาคาชิเก่งมากตั้งแต่เด็ก สามารถเลื่อนขั้นเป็นโจนินตั้งแต่ยังอายุยังน้อย คาคาชิยึดถือกกฎนินจามาก ส่วนโอบิโตะ เป็นเด็กสายเลือดอุจิวะ แต่อ่อนแอ ขี้แยมาก และยังไม่สามารถใช้เนตรวงแหวนได้ จึงถูกคาคาชิเยาะเย้ยอยู่บ่อยๆ โอบิโตะกับคาคาชินั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ ส่วนรินนั้นเป็นนินจาแพทย์ เป็นคนอ่อนโยน ใจดี เป็นนินจาหญิงคนเดียวในทีม (ดูเหมือนว่าแอบชอบคาคาชิอยู่)วันหนึ่ง เมื่อคาคาชิได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน ท่านโฮคาเงะรุ่นที่ 4 และริน ก็ให้ของขวัญคาคาชิ มีเพียงโอบิโตะที่ไม่ได้ให้ของขวัญคาคาชิ ครูของคาคาชิหรือโฮคาเงะรุ่นที่4 ได้มอบหมายภารกิจหนึ่ง (ในสมัยนั้น ได้เกิดมหาศึก 5 แคว้นใหญ่นินจา มีการรบกันอยู่ประปราย) โดยให้คาคาชิ โอบิโตะ และริน ซึ่งมีหัวหน้าทีมคือคาคาชิแอบไปที่แนวหลังของข้าศึก และโจมตีสะพานซึ่งเป็นแหล่งลำเลียงยุทธอุปกรณ์ ส่วนท่านรุ่นที่ 4 จะไปรับข้าศึกแนวหน้า เมื่อเดินทางไปได้ช่วงหนึ่ง เจอคนของข้าศึกที่มาดูลาดเลาซุ่มโจมตีอยู่ คาคาชิจึงใช้พันปักษาที่พึ่งคิดขึ้น แต่พลาดท่าถูกศัตรูสวนกลับ แต่ท่านรุ่นที่ 4 ก็ช่วยไว้และสั่งห้ามไม่ให้คาคาชิใช้วิชานี้อีกเพราะมีจุดอ่อนตรงที่มีความ เร็วมากจนไม่เห็นการโจมตีสวนของข้าศึกเมื่อตกกลางคืนโอบิโตะถามท่านรุ่นที่ 4 ว่าถึงแม้จะเข้าใจว่าคาคาชิเก่ง แต่คาคาชิก็ชอบดูถูกเขาอยู่เรื่อย ท่านรุ่นที่ 4 จึงเล่าเรื่องของพ่อคาคาชิให้โอบิโตะฟัง และบอกโอบิโตะว่า "โอบิโตะ เข้าใจคาคาชิหน่อยเถอะนะ คาคาชิน่ะ เค้าไม่ได้คิดร้ายอะไรหรอก" เมื่อออกเดินทางอีกครั้ง ท่านรุ่นที่ 4 กับพวกคาคาชิก็แยกกันปฏิบัติภารกิจ แต่ในขณะที่ทั้ง 3 คนกำลังเดินทางอยู่ ก็มีนินจาของข้าศึกมาจับตัวรินไปโอบิโตะบอกให้คาคาชิไปช่วยริน แต่คาคาชิบอกว่าเราต้องปฏิบัติภารกิจต่อไป โดยอ้างว่า "นินจาน่ะ ถึงต้องสละเพื่อนพ้อง ก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จให้จงได้ นั่นคือ กฎ" โอบิโตะไม่เห็นด้วยจึงตะโกนใส่คาคาชิว่า "ถ้าไม่ได้รินช่วยรักษาพวกเราตอนที่บาดเจ็บแล้ว ทั้งคู่ก็คงจะตายไปนานแล้ว" แต่คาคาชิก็ยังคงยืนยันคำเดิม โอบิโตะเลือดขึ้นหน้าถึงขนาดชกคาคาชิแล้วบอกว่า "ฉันจะไปช่วยรินคนเดียว" คาคาชิบอกว่า "นายไม่เข้าใจรึไงว่าคนที่ฝ่าฝืนกฎจะเป็นอย่างไร" โอบิโตะหันกลับมาพูดว่า "ฉันน่ะคิดว่าเขี้ยวสีขาวคือวีรบุรุษที่แท้จริง ถึงคนในวงการนินจาจะเรียกคนที่ฝ่าฝืนกฎหรือกติกาว่าเป็นสวะก็เถอะ แต่ว่า..คนที่ไม่เห็นความสำคัญของเพื่อนน่ะ เป็นยิ่งกว่าเศษสวะซะอีก"เมื่อโอบิโตะมาช่วยรินคนเดียว เกือบเสียท่าถูกนินจาฝ่ายตรงข้ามเล่นงาน แต่ในที่สุดคาคาชิเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน เพราะคาคาชิสำนึกได้จึงมาช่วยโอบิโตะ แต่คาคาชิก็ถูกฟันเข้าที่ตาซ้าย โอบิโตะเห็นดังนั้นจึงโกรธมาก และไม่อยากจะเสียคำพูดที่เคยพูดไว้ จึงเบิกเนตรวงแหวนสำเร็จ ได้และฆ่านินจาที่มาทำร้าย ทั้งคู่บุกเข้าไปในถ้ำที่ขังรินไว้ ได้ร่วมกันต่อสู้กับนินจาที่ใช้คาถาลวงตาเพื่อรีดข่าวสารริน ทีมเวิร์คของทั้งคู่ทำให้ฝ่าเข้าไปช่วยรินได้ แต่นินจาที่เฝ้าถ้ำ ใช้คาถาดินทลายภูเขา ทำให้ผนังถ้ำหล่นลงมา คาคาชิบอกให้ทุกคนหนีออกไป แต่เพราะคาคาชิมีมุมบอดที่ตาช้าย ทำให้ไม่เห็นหินก้อนใหญ่ที่จะหล่นลงมาทับตัวเอง โอบิโตะเข้ามาผลักคาคาชิออกไป ทำให้โอบิโตะถูกหินทับที่ร่างกายซีกขวาจนแหลกละเอียดในระหว่างความเศร้าโศกเสียใจและความสำนึกผิดของคาคาชิ คาคาชิพูดว่า "ถ้าฉันเชื่อนายมาช่วยรินด้วยกันตั้งแต่แรกก็คงไม่เป็นแบบนี้" โอบิโตะยิ้มและพูดว่า "จริงสิ ฉันยังไม่ได้ให้ของขวัญแสดงความยินดีที่นายได้เลื่อนขั้นเป็นโจนินเลยนี่คา คาชิ เนตรวงแหวนนี้ ฉันให้นาย" โอบิโตะให้ ริน ผ่าตัดเปลี่ยนเนตรวงแหวนของตัวเองกับตาซ้ายของคาคาชิ หลังจากนั้น คาคาชิก็กระโดดออกมาจากปากหลุม เจอกับนินจาคนเดิมที่ใช้คาถาทำให้ถ้ำถล่ม เขามองหน้าคาคาชิแล้วพูดว่า "นินจาใครเค้าร้องไห้กัน เข้ามาเลยเจ้าขี้แย" ใบหน้าของคาคาชิฉายแววเด็ดเดี่ยว ดวงตาข้างขวาดำสนิทฉายแววว่างเปล่า ส่วนดวงตาแดงข้างซ้ายมีรอยแผลเป็นเป็นทางยาวนั้นมีน้ำใหลเอ่อ คาคาชิกล่าวว่า "โอบิโตะ เพราะนายทำให้คาถานี้สมบูรณ์" แล้วก็ใช้วิชาพันปักษาจัดการนินจาคนนั้นจนตาย เพราะว่าเนตรวงแหวนสามารถมองการโจมตีของศัตรูออก จึงแก้ไขจุดอ่อนจุดสำคัญของพันปักษาได้โดยปริยายแต่ไม่ทันไร ก็มีนินจาอื่นมาสมทบมากมาย พวกมันใช้คาถาดินทลายภูเขา ทำให้ดินถล่มลงมา กลบปากหลุมที่โอบิโตะนอนอยู่ ในวินาทีสุดท้าย โอบิโตะคิดก่อนจะตายว่า "อุตส่าห์ได้ญาติดีกับคาคาชิแล้วแท้ๆ อยากจะอยู่กับทุกคนให้นานกว่านี้" แล้วดินก็กลบปากหลุมจนบังโอบิโตะหมด คาคาชิบอกให้รินหนีไปโดยตัวเองจะถ่วงเวลาไว้และเสริมว่าโอบิโตะฝากรินไว้กับ เขา เพราะงั้นต่อให้ต้องตายก็ต้องปกป้องรินไว้ให้ได้และพูดกับรินว่า "ริน โอบิโตะน่ะชอบเธอนะ เห็นเธอเป็นคนสำคัญถึงได้ปกป้องด้วยชีวิต" รินตะโกนทั้งน้ำตาว่า "คาคาชิ แล้วความรู้สึกของฉันล่ะ?" คาคาชิบอกว่าเขาเองเป็นแค่เศษสวะที่เคยจะทอดทิ้งเธอมาก่อน เมื่อนินจาทั้งหมดบุกเข้ามา คาคาชิก็ต่อสู้จนเฮือกสุดท้ายก่อนจะสลบไป เมื่อเขาตื่นขึ้นมาพบว่า ตัวเองนอนอยู่ข้างท่านรุ่นที่ 4 (ท่านรุ่นที่ 4 มาช่วยไว้ได้ทันเวลา)หลังจากที่ภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาทำสำเร็จแล้ว การต่อสู้ของ 5 แคว้นนินจาก็สงบลง มีคนมากมายที่ตายจากการทำภารกิจ โอบิโตะก็เป็น 1 ในนั้น เรื่องราวของคาคาชิได้แพร่ขยายออกไปทั่วแคว้น และในวันนั้นก็มีผู้ใช้เนตรวงแหวนเกิดขึ้น 2 คนคือ อุจิวะ โอบิโตะ และ ฮาตาเกะ คาคาชิ ทุกคนต่างก็รู้จักคาคาชิ ผู้มีฉายาว่า "ก๊อบปี้นินจาคาคาชิ" (เครดิตโดย รวมเล่มเล่ม 27 ตอนคาคาชิบอยไลฟ์กลางสมรภูมิรบ)แต่การใช้เนตรวงแหวนนั้น ไม่คล่องเท่าที่ควร และสูญเสียจักระอีกด้วยคาคาชิตอนได้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาก็ฝึกเอง โดยไม่จำเป็นต้องฆ่าคนที่รักแต่ตอนนารุโตะสู้กับซาซึเกะ ซาซึเกะไม่ได้อยากฆ่านารูโตะเลยแต่จำเป็นเพราะการจะได้ "เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา" จะต้องฆ่าเพื่อนที่รักที่สุด (เป็นข้อแม้เฉพาะคนในตระกูล) ไม่ใช่นารูโตะ แต่เป็นพี่ชายของตัวเอง
ลักษณะนิสัย
คาคาชิ อาจารย์สังกัดกลุ่ม 7 หนึ่งในตัวละครที่รับความนิยมมากในหมู่สาว มีความเป็นอิสระ เป็นตัวของตัวเองสูง คาคาชิดูเหมือนจะเบลอในบางเวลา ดูเหมือนเขายังมีความเจ็บปวดลึกๆ ภายในจิตของเขาอยู่จากเรื่องในอดีต สังเกตจากเวลาปกติดวงตาจะดูเหม่อลอยเศร้าสร้อย แต่พอถึงเวลาที่คาคาชิเอาจริงขึ้นมา เท่ห์อย่าบอกใครเชียว โดยปกติจะอ่านหนังสือสวรรค์รำไร (อจึ๋ยสวรรค์ ในปัจจุบันมี 4 ภาค คือ อจึ๋ยสวรรค์รำไร อจึ๋ยตกสววรค์ อจึ๋ยสวรรค์ระทม และอะจึ๊ยแทคติคส์) นิยายวาบหวิวตลอดเวลา คนเขียนคือจิไรยะ ชายผู้ที่ได้ฉายาว่า เซียนลามกและเป็นอาจารย์อีกคนของนารูโตะ ในเล่มสุดท้ายคือตอนที่เอานารูโตะ ไปฝึกวิชาเพราะต้องส่งต้นฉบับจึงเขียนเป็นตอนไม่มีหญิงสาวเลย เวลานัดทีไรคาคาชิก็ชอบมาสายทุกครั้งและถึงแม้ว่าภายใต้หน้ากากนั้นจะเป็น ปริศนา แต่คาดว่าจะต้องมีหนุ่มรูปงามซุกซ่อนอยู่ภายใตหน้ากากนั้นแน่ (สังเกตจากตอนที่พวกนารูโตะอยากเห็นใต้หน้ากากของคาคาชิ จึงชวนไปกินราเม็ง ลูกสาวร้านขายราเมงเห็นแล้วถึงกับตกหลุมรัก ส่วนเจ้าของร้านราเมงถึงกับแอบหลง กับตอนที่คาคาชิช่วยสาวเมื่อ 3 ปีก่อนจาก 3 นินจาโมยะ พอคาคาชิจะพาไปส่งที่บ้าน เธอรีบกอดแขนแน่นเลย)การต่อสู้กับเพนเมื่อเพนซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มแสงอุษาบุกโจมตีโคโนฮะ คาคาชิก็ได้เข้าต่อสู้กับเพนแต่ไม่สามารถทำอะไรเพนได้ และในตอนท้ายสุดคาคาชิได้รวบรวมจักระทั่งหมดในตัวทั้งที่ร่างกายก็บาดเจ็บ สาหัสเพื่อใช้เนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผาในการช่วยให้โจจิรอดพ้นไปบอกความ สามารถในการสะท้อนกลับและดูดเข้าของเพนวิถีสวรรค์แก่โฮคาเงะรุ่นที่5(ซึนา เดะ)ภายหลังนารุโตะได้ต่อสู้กับเพนและสามารถล้มเพนทั้ง6ร่างได้แล้ว นารุโตะก็ได้คุยกับนางาโตะซึ่งเป็นผู้ควบคุมเพนทั้ง6ตัวจริง ท้ายสุดทั้ง2ฝ่ายจึงเข้าใจกัน นารุโตะตัดสินใจไม่ฆ่านางาโตะ แล้วนางาโตะก็ทำให้ผู้คนในโคโนะฮะที่ตนฆ่าตายฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง รวมถึงคาคาชิด้วย (แต่ที่จิไรยะไม่สามารถ ฟื้นได้เพราะ ไม่ได้โดนเพน ดูดวิญญาณ แต่ตายเพราะ จมน้ำและ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว) - คาคาชิ ตอนใช้ท่าพันปักษา
- ประวัติ กาอาระ
- ชื่อของกาอาระ มาจากภาษาญี่ปุ่นตัวคันจิ 3 ตัว ได้แก่ "กะ" (我 หมายถึง ปีศาจ) "อะ" (愛ใช้แทนคำว่า อะอิ ที่แปลว่า ที่รัก) และ "ระ" (羅 หมายถึง ตนเอง) เมื่อรวมกันหมายถึง ปีศาจที่รักตนเอง หรือมีความหมายโดยนัยว่า ปีศาจที่รักตนเอง ซึ่งอธิบายลักษณะเฉพาะตัวของกาอาระประวัติของกาอาระ
- กาอาระเกิดมาพร้อมกับซูคาคุ ปีศาจในร่างกาย โดยพ่อ คาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 และผู้เฒ่าคนอื่นในหมู่บ้านทำพิธีไว้ เพื่อให้กาอาระโตขึ้นมาเป็นอาวุธสำคัญให้กับหมู่บ้าน กาอาระเป็นลูกชายคนสุดท้ายของคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 โดยมีพี่น้องไม่แท้คือ เทมาริ และ คันคุโร่
- ในชีวิตกาอาระช่วงเด็กเชื่อมั่นเสมอว่าแม่รักเขา แต่เมื่อวันหนึ่งน้องชายของแม่เขาได้รับคำสั่งจากคาเสะคาเงะรุ่นที่4 (พ่อของกาอาระ) ให้มาลอบสังหารเขา แต่ด้วยความที่กาอาระมี "ซูคาคุ" อยู่ในตัวทำให้สามารถเอาชนะได้และได้ทราบความจริงจากปากน้าของเขาว่า แท้จริงแล้วแม่ไม่ได้อยากให้เขาเกิดมา ทำให้ในต่อมาเขากลายเป็นบุคคลที่น่าสะพรึงไม่มีความรักให้กับใคร มีแต่ความเกลียด และฆ่าทุกคนที่ขวางทางเขา ชะตาชีวิตของเขาก็เหมือนนารูโตะ (ตัวเอกของเรื่อง) คือการที่มีสัตว์หาง (บิจู) อยู่ในร่างกายทำให้กาอาระมีความสามารในการใช้ทรายแต่ ก็แลกมาด้วยการที่คนอื่นตั้งแง่รังเกลียด บางคนก็กลัวเขา เขาต้องการให้คนอื่นยอมรับตัวตนของตัวเองให้ได้แต่ในเมื่อไม่มีใครรับได้ เขาจึงฆ่าทำให้ผู้คนหวาดกลัว จนกระทั่ง ได้พบกับนารูโตะที่มีชะตาชีวิตเหมือนๆกัน และได้เข้าใจถึงคำว่ามิตรภาพ ท้ายสุดแล้วกาอาระได้สืบทอดตำแหน่ง คาเซะคาเงะ (เงาลม) จากพ่อของเขาและทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด โดยการสละกระทั่งพลังสุดท้ายเพื่อปกป้องหมู่บ้านของเขา (ซึนะงาคุเระ) จากระเบิด แต่ด้วยกลอุบายของเดอิดาระที่ได้วางแผนโดยที่ใช้คาถาระเบิดขณะที่กาอาระปิด โล่กำบังโดยเคี้ยวดินเหนียวผสมกับทรายที่ใช้ทำลายแขนของตนโดยปั้นเป็นสัตว์ ภายในโล่กำบังทรายของการอาระ โดยคาถาระเบิดทำให้กาอาระบาดเจ็บอย่างหนัก แม้เพียงจักระที่เหลือเพียงขั้นสุดท้ายก็ยังเบี่ยงทรายที่ตัวเองใช้ปกป้อง หมู่บ้านออกไปไม่ให้ตกมาทำลายหมู่บ้านของตน แล้วโล่กำบังทรายก็พังทลายจนกาอาระล่วงล่นลงมาแล้วถูก แสงอุษา (เดอิดาระ) จับตัวไป
- ท้าไม้ตาย
- โร่ทราย คือโร่ทรายที่สามารถป้องกันกาอาระได้อัตโนมัตเพื่อจะไม่ให้คู่ต่อสู้ทำร้าย กาอาระได้ นอกจากคู่ต่อสู้ที่มีความไวในการวิ่งเท่านั้นถึงจะโจมตีกาอาระได้
- โรงศพทราย
- ทรายระเบิดศพ
- ฝนทราย
- คลื่นทราย
- พิธีศพทะเลทราย
- หลุมทราย
- คุ๊กทราย
- คลื่นสูบทรายวน
- กระสุนทราย
- เข็มทรายอัสณี
เนื้อเรื่องของกาอาระ
กาอาระเข้าสอบจูนินพร้อมกับ เทมาริ และคันคุโร่ ในการสอบรอบแรกกาอาระได้ใช้ ดวงตาทรายที่สามดูข้อสอบคนอื่นๆ โดยเจอบททดสอบที่แท้จริงจากโมริโนะ อิบิกิและ นั่งอยู่ในห้องสอบจนผ่านการสอบ และผ่านรอบสองเป็นกลุ่มแรก โดยไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนและใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว และในรอบคัดเลือกก่อนเข้ารอบที่ 3 กาอาระได้ต่อสู้กับ ร็อก ลี และเป็นครั้งแรกที่กาอาระโดนโจมตี แต่สุดท้ายกาอาระก็เอาชนะลีมาได้อย่างไม่ลำบากมาก ในขณะที่ต่อสู้รอบสุดท้ายกับซาสึเกะ และในขณะเดียวกับที่เป็นแผนการโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ กาอาระไม่สามารถควบคุมปีศาจที่อยู่ในร่างกายได้ จึงต้องถอยตัวออกมา โดยมีพวกนารูโตะตามมา และได้ต่อสู้กัน ต่อมาในการช่วยเหลือ อุจิวะ ซาซึเกะ จากโอริจิมารุ กาอาระและพรรคพวกได้เข้ามาตอบแทนพวกหมู่บ้านโคโนฮะ โดยกาอาระได้เข้ามาช่วย ร็อก ลี ในการต่อสู้กับ คิมิมาโระ อย่างหนักจน คิมิมาโระ พ่ายแพ้
ในภาคที่สอง กาอาระซึ่งในขณะนั้นได้เป็นคาเสะคาเงะของซึนะงาคุเระได้โดนพวกกลุ่มแสงอุษาจับตัวไป เพื่อต้องการพลังสถิตร่าง และในตอนนั้นที่ทางหมู่บ้านซึนะ ได้มาขอร้องให้พวกหมู่บ้านโคโนฮะมาช่วย โดยทีมช่วยเหลือได้แก่ อุซึมากิ นารูโตะ ฮาตาเกะ คาคาชิ และ ฮารุโนะ ซากุระและได้แม่เฒ่าจิโยะ(ท่าน ย่าโจ) จากหมู่บ้านซึนะมาช่วยอีกแรง และต่อมานารุโตะได้รับคำสั่งให้ไปช่วยตัวกาอาระที่โดนพวกแสงอุษาจับตัวไป แล้วและนำตัวกาอาระมาได้ ปรากฏว่ากาอาระโดนสูบพลังไปจนหมดและเสียชีวิต ต่อมาย่าโจได้ใช้วิชาแพทย์ขั้นสุดยอด คือการพื้นชิวิตให้กับกาอาระโดยการเสียสละตัวเองเพื่อช่วยกาอาระ เพราะในอดีตท่านย่าโจเป็นคนที่ใส่ปีศาจภูตทราย (*แร็คคูน หางเดี่ยว*) ไว้ในตัวกาอาระจึงถือว่าเป็นการไถ่โทษให้กับตัวเอง แล้วท่านย่าโจก็ช่วยกาอาระไว้ด้วยการแลกชีวิตกับกาอาระ ได้สละชีวิตตัวเองชุบชีวิตกาอาระขึ้นมา
ชื่อ : คันคุโร่
อายุ : 17 ปี
วันเกิด : 15 พฤษภาคม
ส่วนสูง : 167 ซม.(ภาค 1)
น้ำหนัก : 61.2 (ภาค 1)
กรุ๊ปเลือด :B
หมายเลขทะเบียนนินจา : 53-002
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : Episode 20
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : Chapter 35
หมู่บ้าน : ซึนะงาคุเระ
ระดับ : โจนิน
ความหมายของชื่อ : kurou แปลว่า อีกา
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : กาอาระ,เทมาริ,บากิ
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ :
ระดับต่ำ (D-Rank) : ?
ระดับทั่วๆไป (C-Rank) : 9
ระดับสูง (B-Rank) : 1
ระดับสูงมาก (A-Rank) : 1
ภารกิจขั้นเทพ (S-Rank) : 1
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน :
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : -
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : -
ข้อมูลตัวละคร :
คันคุโร่เปรียบเสมือนน้องชายของเทมาริและพี่ชายของกาอาระ ใบหน้าของคันคุโร่มีการแต่งหน้าตามแบบนักแสดงของคะบุกิ (「歌舞伎」 kabuki)ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงของญี่ปุ่นที่ใช้การแต่งหน้าเป็นเอกลักษณ์ การวาดใบหน้าของคันคุโร่ตามที่ปารากฏในเรื่องมี3แบบ
อายุ : 17 ปี
วันเกิด : 15 พฤษภาคม
ส่วนสูง : 167 ซม.(ภาค 1)
น้ำหนัก : 61.2 (ภาค 1)
กรุ๊ปเลือด :B
หมายเลขทะเบียนนินจา : 53-002
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : Episode 20
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : Chapter 35
หมู่บ้าน : ซึนะงาคุเระ
ระดับ : โจนิน
ความหมายของชื่อ : kurou แปลว่า อีกา
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : กาอาระ,เทมาริ,บากิ
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ :
ระดับต่ำ (D-Rank) : ?
ระดับทั่วๆไป (C-Rank) : 9
ระดับสูง (B-Rank) : 1
ระดับสูงมาก (A-Rank) : 1
ภารกิจขั้นเทพ (S-Rank) : 1
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน :
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : -
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : -
ข้อมูลตัวละคร :
คันคุโร่เปรียบเสมือนน้องชายของเทมาริและพี่ชายของกาอาระ ใบหน้าของคันคุโร่มีการแต่งหน้าตามแบบนักแสดงของคะบุกิ (「歌舞伎」 kabuki)ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงของญี่ปุ่นที่ใช้การแต่งหน้าเป็นเอกลักษณ์ การวาดใบหน้าของคันคุโร่ตามที่ปารากฏในเรื่องมี3แบบ
เขาได้เข้าเป็นสมาชิกของกองทัพหุ่นเชิดแห่งซึนะโดยได้รับการถ่ายทอดวิชาหุ่น เชิดอันเป็นตำนานของซาโซริและยังได้รับมรดกตกทอดของซาโซริเป็นหุ่นเชิดอีก ด้วย
เมื่อถึงช่วงสอบจูนิน ซึนะงาคุเระและนินจาจากโอโตะงาคุเระมีแผนที่จะถล่มโคโนะฮะ แผนการครั้งนี้คือให้คันคุโร่และพี่น้องอีก2คนคือกาอาระและเทมาริเข้าไป ทดสอบจูนินในโคโนะฮะ เมื่อพวกเขาปรากฏตัว ก็ทำให้เหล่าเกะนินของโคโนะฮะทางสงสัยว่ามาที่หมู่บ้านทำไม คันคุโร่ได้มีเรื่องและเกิดทะเลาะกันกับโคโนะฮะมารุ แต่ซาสึเกะก็เข้ามาช่วยห้ามไว้ คันคุโร่จึงยอมถอยไป
ในการทดสอบจูนินรอบที่ 1ด้วยความชำนาญและเก่งกาจของทีมของคันคุโร่ พวกเขาสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างง่ายดาย คันคุโร่ใช้วิชาหุ่นเชิดปลอมตัวเป็นผู้คุมสอบเพื่อลอกข้อสอบแต่หัวหน้าผู้ คุมสอบ โมริโนะ อิบิกิก็จับได้ว่าคันคุโร่โกงการสอบแต่เขาก็ไม่ได้ปรับให้คันคุโร่สอบตก
ทีมของคันคุโร่เข้ามาถึงรอบสองของการสอบจูนิน ในการสอบครั้งนี้มีคำสั่งว่าให้ชิงคัมภีร์มาจากคู่ต่อสู้ 2อันคือคัมภีร์ฟ้ากับดิน ทีมของเขาได้ปะทะกับนินจาจากหมู่บ้านฝนและฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ทีมนี้สามารถทำภารกิจสำเร็จเป็นทีมแรกอีกทั้งยังทำเวลาได้ดีมากจนอังโกะ หัวหน้าผู้คุมสอบรอบสองและโจนินอื่นๆถึงกับอึ้ง
ในการสอบจูนินรอบที่สาม คันคุโร่ได้สู้กับมิซึมิในรอบคัดเลือกและ อาราบาเมะ ชิโนะในรอบสุดท้าย แต่เพราะกาอาระควบคุมพลังของสัตว์หางไม่อยู่ในการต่อสู้กับซาสึเกะ และถึงเวลาที่จะโจมตีตามแผนการที่วางไว้แล้ว การทดสอบจูนินในคู่ที่เหลือจึงต้องยกเลิกไป คันคุโร่และเทมาริได้รับคำสั่งจากบากิ ให้ไล่ตามกาอาระไป เมื่อไปได้สักพักหนึ่ง คันคุโร่และเทมาริก็เจอกับซาสึเกะและชิโนะซึ่งได้รับคำสั่งให้ตามมาเช่นกัน ชิโนะจึงบอกให้ซาสึเกะตามกาอาระต่อไป ส่วนเขาจะรับมือกับคันคุโร่เอง
ในการต่อสู่ครั้งนี้คันคุโร่ได้ใช้อาวุธรับต่างๆมากมายจากหุ่นเชิดของเขา“กา ราสุ”(烏อีกา)อย่างเช่นเข็มอาบยาพิษ,ดาบอาบยาพิษ,แก๊สพิษ แต่ในที่สุดคันคุโร่ก็แพ้ชิโนะเพราะว่าชิโนะปล่อยแมลงเข้าไปในหุ่นของเขาทำ ให้ไม่สามารถบังคับหุ่นได้และยังใช้แมลงกัดกินด้ายจักระจากนิ้วของคันคุโร่ อีกด้วย
สาเหตุของแผนการถล่มโคโนฮะก็คือคาเสะคาเงะไม่พอใจการปกครองประเทศของไดเมีย วจึงคิดวางแผนกับหมู่บ้านโอโตะงาคุเระเพื่อโจมตีโคโนะฮะ ทั้งที่คันคุโร่และพวกซึนะบางคนก็รู้ว่าโอโรจิมารุผู้นำของโอโตะงาคุเระ กำลังหลอกใช้ซึนะในการทำสงคราม จนในตอนจบพวกเขาก็มารู้ความจริงว่าโอโรจิมารุฆ่าพ่อของคันคุโร่แล้วปลอมตัว เข้าไปการทดสอบจูนินเพื่อเตรียมพร้อมทำสงคราม
หลังจากนั้นซึนะงาคุเระและโคโนะฮะก็ประสานความสัมพันธ์กันอีกและคันคุโร่ได้ เข้ามาช่วยคิบะและอากามารุที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับ ซาคอนและอูคอนหนึ่งในสี่นินจาโอโตะ สำหรับเทมาริและกาอาระได้เข้าไปช่วยชิกามารุกับลีที่กำลังต่อสู้กับนินจาโอ โตะที่เหลืออีก2คน ในการต่อสู้ของคันคุโร่ เขาได้ใช้หุ่นเชิดตัวใหม่ชื่อว่า “คุโรอะริ” (黒蟻, มดดำ) เป็นหุ่นที่ใช้สำหรับป้องกันโดยเฉพาะ ที่ส่วนอกของหุ่นนี้สามารถเปิดได้ ซาคอนและอูคอนถูกดึงเข้าไปคุโรอะริ จากนั้นการาสุ หุ่นอีกตัวหนึ่งก็กลายเป็นมีดหลายเล่มเสียบเข้าไปตามช่องของคุโรอะรินี้ ซาคอนและอูคอนก็ตายทันที วิชาใหม่ของคันคุโร่นี้เป็นเหมือนการแสดงหุ่นเชิดให้คนดู
เนื้อเรื่องนี้จะเป็นของAnime ที่ไม่ปรากฏในmanga คือหมู่บ้านซึนางาคุเระถูกโจมตีโดยชายที่มีชื่อว่า Haido คันคุโร่และกาอาระรวมทั้งชิกามารุ นารุโตะและซากุระจึงออกไปต่อสู้เพื่อป้องกันหมู่บ้าน
ในภาคต่อมา คันคุโร่ผ่านการทดสอบจูนินจนได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน ต่อมาแสงอุษาสองคนคือเดอิดาระและซาโซริได้ลักพาตัวกาอาระไป คันคุโร่ซึ่งดูเหตุการณ์อยู่จึงตามออกไปช่วยและได้ปะทะกับซาโซริ เขาได้ใช้หุ่นเชิดทั้งสามตัวของเขาเข้าต่อสู้ซึ่งมีหุ่นตัวใหม่อีกตัวหนึ่ง คือ “ซันโซอุเอะ”( 山椒魚,ปลาซันโซ) ซึ่งมี แต่ก็แพ้อย่างราบคาบเพราะว่า ซาโซริเป็นผู้สร้างหุ่นทั้งสามตัวนี้ เขาจึงรู้กลไกอาวุธลับทั้งหมดของหุ่นอีกทั้งระดับฝีมือของซาโซริที่เป็นถึง ปรมาจารย์ด้านหุ่นเชิด ทำให้คันคุโร่ไม่สามารถช่วยกาอาระได้ซ้ำยังโดนเข็มพิษของซาโซริเข้าไปอีก ยาพิษนี้ถ้าไม่รักษาจะทำให้เสียชีวิตได้ในสามวัน แต่โชคดีที่ซากุระมาช่วยไว้ได้ทัน
เมื่อคันคุโร่หายป่วยดีแล้วเขาและเทมาริจึงเตรียมตัวเพื่อไปสู้กับแสงอุษา แต่ที่ปรึกษาโจ ก็ห้ามไว้และสั่งว่าให้ทั้งสองดูแลหมู่บ้าน ส่วนย่าโจนั้นจะไปแทนเองเพราะซาโซริเป็นหลานแท้ๆ จึงอยากสะสางเรื่องนี้เอง
เมื่อถึงช่วงสอบจูนิน ซึนะงาคุเระและนินจาจากโอโตะงาคุเระมีแผนที่จะถล่มโคโนะฮะ แผนการครั้งนี้คือให้คันคุโร่และพี่น้องอีก2คนคือกาอาระและเทมาริเข้าไป ทดสอบจูนินในโคโนะฮะ เมื่อพวกเขาปรากฏตัว ก็ทำให้เหล่าเกะนินของโคโนะฮะทางสงสัยว่ามาที่หมู่บ้านทำไม คันคุโร่ได้มีเรื่องและเกิดทะเลาะกันกับโคโนะฮะมารุ แต่ซาสึเกะก็เข้ามาช่วยห้ามไว้ คันคุโร่จึงยอมถอยไป
ในการทดสอบจูนินรอบที่ 1ด้วยความชำนาญและเก่งกาจของทีมของคันคุโร่ พวกเขาสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างง่ายดาย คันคุโร่ใช้วิชาหุ่นเชิดปลอมตัวเป็นผู้คุมสอบเพื่อลอกข้อสอบแต่หัวหน้าผู้ คุมสอบ โมริโนะ อิบิกิก็จับได้ว่าคันคุโร่โกงการสอบแต่เขาก็ไม่ได้ปรับให้คันคุโร่สอบตก
ทีมของคันคุโร่เข้ามาถึงรอบสองของการสอบจูนิน ในการสอบครั้งนี้มีคำสั่งว่าให้ชิงคัมภีร์มาจากคู่ต่อสู้ 2อันคือคัมภีร์ฟ้ากับดิน ทีมของเขาได้ปะทะกับนินจาจากหมู่บ้านฝนและฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ทีมนี้สามารถทำภารกิจสำเร็จเป็นทีมแรกอีกทั้งยังทำเวลาได้ดีมากจนอังโกะ หัวหน้าผู้คุมสอบรอบสองและโจนินอื่นๆถึงกับอึ้ง
ในการสอบจูนินรอบที่สาม คันคุโร่ได้สู้กับมิซึมิในรอบคัดเลือกและ อาราบาเมะ ชิโนะในรอบสุดท้าย แต่เพราะกาอาระควบคุมพลังของสัตว์หางไม่อยู่ในการต่อสู้กับซาสึเกะ และถึงเวลาที่จะโจมตีตามแผนการที่วางไว้แล้ว การทดสอบจูนินในคู่ที่เหลือจึงต้องยกเลิกไป คันคุโร่และเทมาริได้รับคำสั่งจากบากิ ให้ไล่ตามกาอาระไป เมื่อไปได้สักพักหนึ่ง คันคุโร่และเทมาริก็เจอกับซาสึเกะและชิโนะซึ่งได้รับคำสั่งให้ตามมาเช่นกัน ชิโนะจึงบอกให้ซาสึเกะตามกาอาระต่อไป ส่วนเขาจะรับมือกับคันคุโร่เอง
ในการต่อสู่ครั้งนี้คันคุโร่ได้ใช้อาวุธรับต่างๆมากมายจากหุ่นเชิดของเขา“กา ราสุ”(烏อีกา)อย่างเช่นเข็มอาบยาพิษ,ดาบอาบยาพิษ,แก๊สพิษ แต่ในที่สุดคันคุโร่ก็แพ้ชิโนะเพราะว่าชิโนะปล่อยแมลงเข้าไปในหุ่นของเขาทำ ให้ไม่สามารถบังคับหุ่นได้และยังใช้แมลงกัดกินด้ายจักระจากนิ้วของคันคุโร่ อีกด้วย
สาเหตุของแผนการถล่มโคโนฮะก็คือคาเสะคาเงะไม่พอใจการปกครองประเทศของไดเมีย วจึงคิดวางแผนกับหมู่บ้านโอโตะงาคุเระเพื่อโจมตีโคโนะฮะ ทั้งที่คันคุโร่และพวกซึนะบางคนก็รู้ว่าโอโรจิมารุผู้นำของโอโตะงาคุเระ กำลังหลอกใช้ซึนะในการทำสงคราม จนในตอนจบพวกเขาก็มารู้ความจริงว่าโอโรจิมารุฆ่าพ่อของคันคุโร่แล้วปลอมตัว เข้าไปการทดสอบจูนินเพื่อเตรียมพร้อมทำสงคราม
หลังจากนั้นซึนะงาคุเระและโคโนะฮะก็ประสานความสัมพันธ์กันอีกและคันคุโร่ได้ เข้ามาช่วยคิบะและอากามารุที่บาดเจ็บจากการต่อสู้กับ ซาคอนและอูคอนหนึ่งในสี่นินจาโอโตะ สำหรับเทมาริและกาอาระได้เข้าไปช่วยชิกามารุกับลีที่กำลังต่อสู้กับนินจาโอ โตะที่เหลืออีก2คน ในการต่อสู้ของคันคุโร่ เขาได้ใช้หุ่นเชิดตัวใหม่ชื่อว่า “คุโรอะริ” (黒蟻, มดดำ) เป็นหุ่นที่ใช้สำหรับป้องกันโดยเฉพาะ ที่ส่วนอกของหุ่นนี้สามารถเปิดได้ ซาคอนและอูคอนถูกดึงเข้าไปคุโรอะริ จากนั้นการาสุ หุ่นอีกตัวหนึ่งก็กลายเป็นมีดหลายเล่มเสียบเข้าไปตามช่องของคุโรอะรินี้ ซาคอนและอูคอนก็ตายทันที วิชาใหม่ของคันคุโร่นี้เป็นเหมือนการแสดงหุ่นเชิดให้คนดู
เนื้อเรื่องนี้จะเป็นของAnime ที่ไม่ปรากฏในmanga คือหมู่บ้านซึนางาคุเระถูกโจมตีโดยชายที่มีชื่อว่า Haido คันคุโร่และกาอาระรวมทั้งชิกามารุ นารุโตะและซากุระจึงออกไปต่อสู้เพื่อป้องกันหมู่บ้าน
ในภาคต่อมา คันคุโร่ผ่านการทดสอบจูนินจนได้เลื่อนขั้นเป็นโจนิน ต่อมาแสงอุษาสองคนคือเดอิดาระและซาโซริได้ลักพาตัวกาอาระไป คันคุโร่ซึ่งดูเหตุการณ์อยู่จึงตามออกไปช่วยและได้ปะทะกับซาโซริ เขาได้ใช้หุ่นเชิดทั้งสามตัวของเขาเข้าต่อสู้ซึ่งมีหุ่นตัวใหม่อีกตัวหนึ่ง คือ “ซันโซอุเอะ”( 山椒魚,ปลาซันโซ) ซึ่งมี แต่ก็แพ้อย่างราบคาบเพราะว่า ซาโซริเป็นผู้สร้างหุ่นทั้งสามตัวนี้ เขาจึงรู้กลไกอาวุธลับทั้งหมดของหุ่นอีกทั้งระดับฝีมือของซาโซริที่เป็นถึง ปรมาจารย์ด้านหุ่นเชิด ทำให้คันคุโร่ไม่สามารถช่วยกาอาระได้ซ้ำยังโดนเข็มพิษของซาโซริเข้าไปอีก ยาพิษนี้ถ้าไม่รักษาจะทำให้เสียชีวิตได้ในสามวัน แต่โชคดีที่ซากุระมาช่วยไว้ได้ทัน
เมื่อคันคุโร่หายป่วยดีแล้วเขาและเทมาริจึงเตรียมตัวเพื่อไปสู้กับแสงอุษา แต่ที่ปรึกษาโจ ก็ห้ามไว้และสั่งว่าให้ทั้งสองดูแลหมู่บ้าน ส่วนย่าโจนั้นจะไปแทนเองเพราะซาโซริเป็นหลานแท้ๆ จึงอยากสะสางเรื่องนี้เอง
ประวัติ เนจิ
ก่อน จะพูดถึง เนจิ ขอแนะนำรูปตัวการ์ตูนจากเรื่อง นินจาคาถาฯ ที่มีอยู่ที่หน้า BLOG ผมทั้งหมดก่อนแล้วกันครับเริ่มที่แถบ บน 5 คน คือ โฮคาเงะ(เงาอัคคี) รุ่นที่ 1-รุ่นที่ 5 (คาเงะคือตำแหน่งของนินจา ที่ เก่งกาจที่สุดในแคว้นของตัวเอง)
Shodaime Hokage,
Nidaime Hokage ,
Sarutobi Sandaime Hokage (ศาสตราจารย์),
Yondaime Hokage (ประกายสีเหลืองแห่งโคโนฮะ),
Tsunade Godaime Hokage(1 ในสามนินจาในตำนาน นินจาผู้ใช้ทาก)
Shodaime Hokage,
Nidaime Hokage ,
Sarutobi Sandaime Hokage (ศาสตราจารย์),
Yondaime Hokage (ประกายสีเหลืองแห่งโคโนฮะ),
Tsunade Godaime Hokage(1 ในสามนินจาในตำนาน นินจาผู้ใช้ทาก)
ฮิวงะ เนจิ นินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะทายาทชายในตระกูลสาขาของกลุ่มฮิวงะ มีความสามารถหลักคือเนตรสีขาว ที่สามารถมองทะลุสิ่งต่างๆ และมองเห็นถึงกระแสจักระภายในร่างกายของนินจาได้ ฮิวงะ เนจิ ถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะของตระกูลฮิวงะ มีความสามารถในการใช้มวยอ่อน เมื่อฮิวงะ ฮินาตะ ลูกพี่ลูกน้องในตระกูลหลัก อายุได้ 3 ปี วันเดียวกับที่ ฮิวงะ เนจิ อายุ 4 ปี เนจิได้ถูกประทับอักขระ"ปักษาในกรง" ที่หน้าผาก เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าจะปกป้องตระกูลหลัก โดยเมื่อใดก็ตามที่ทรยศ สัญลักษณ์ปักษาในกรงจะส่งผลให้ผู้ใช้บาดเจ็บและล้มตาย ปักษาในกรงยังเป็นวิธีป้องกันความลับของเนตรสีขาว อักขระจะถูกกระตุ้นให้ทำลายความสามารถเนตรสีขาวในตัวบุคคลนั้น จุดนี่เองที่ทำให้เนจิ เกลียดฮินาตะ เพราะพ่อของเนจิ ฮิวงะ ฮิซาชิ ได้ยอมเสียชีวิตเพื่อปกป้องตระกูลฮิวงะ
ท่าไม้ตาย
- เนตรสีขาว คือวิชาที่ใช้มองการไหลเวียนจักระของคู่ต่อสู้และสามารถมองทะลุทุกอย่างได้อีกด้วย
- มวยอ่อน คือการใช้จักระโจมตีคู่ต่อสู้ เพื่อหยุดการไหลเวียนของจักระ หรือเพิ่มพูนจักระให้เพิ่มขึ้นได้ตามใจชอบ
- เคลื่อน สวรรค์(Hakkeshou kaiten) เป็นการหมุนตัวเองให้เหมือนกับลูกข่างเพื่อป้องกันการโจมตีจากคู่ต่อสู้และ เป็นการป้องกันตัวเองจากจุดอ่อนของเนตรสีขาว
- ฝ่ามือทลายภูผาแปดทิศ คือการโจมตีที่ปล่อยจักระเข้าท้องคู่ต่อสู้และจักระที่ปล่อยจะทะลุหลังและจากนั้นจักระก็จะกว้างขึ้นจะระเบิด
- ฝ่า มือว่างแปดทิศ คือการโจมตีที่ใช้ลมในการโจมตีคู่ต่อสู้ และถ้าคู่ต่อสู้โดนลมจะดันคู่ต่อสู้ไปเลื่อยๆจนกว่าจะถึงจุดสิ้นสุดของ พื้นที่
- แปดทิศหกศพ คือการโจมตีที่เอาจักระออกมาให้ทั่วมือและเมื่อโจมตี 1 ทีจะเหมือนโจมที 10 ที่เพราะการโจมตีนี้คือการโจมตีให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บหนัก
- มวยอ่อนแปดทิศ64ฝามือ
- มวยอ่อนแปดทิศ128ฝามือ
- มวยอ่อนแปดทิศ1886ฝามือ
ส่วนคนที่ยืนเทห์อยู่ซ้ายมือ Gaara Godaime Kazekage(กาอาระแห่งทราย) คนที่ยืนอยู่ขวามือคือพระเอกของเรื่อง ชื่อ อุซึมากิ นารุโตะ
ส่วน ตัวที่ยืนหมุนตัว อยู่คือ ฮิวงะ เนจิ ครับ เกือบลืมไปคนครับ คนที่มีหน้าอยู่ที่ส่วน Comment ชื่อ อุจิวะ อิทาจิ (นินจาถอนตัวระดับ S class)ครับ
เนจิเป็นเด็กหนุ่มผู้มีเนตรสีขาว พูดง่ายๆก็คือไม่มีตาดำ (แต่ไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดตาขาวเหมือนผมนะครับ)
เน จิ เกิดในตระกูลสาขาของตระกูลฮิวงะ มีหน้าที่คอยปกป้องตระกูลหลัก ทุกคนที่เกิดในตระกูลสาขา จะถูกผนึกด้วยอักขระ ปักษาในกรงที่หน้าผาก
อักรขระที่ทำหน้าที่ปิดความสามารถของเนตรสีขาวทันทีเมื่อ คน ในตระกูลสาขาตายลง และเป็นอักขระที่ผู้ปกครองตระกูลสามารถปลิดชีพคนในตระกูลสาขาด้วยคาถานินจา
เนตรสีขาวของตระกูลฮิวงะ เป็นดวงตาที่มีความสามารถยอดเยี่ยมสุดๆ ทัศนวิสัยในการมองเห็น 360 องศามองเห็นได้รอบตัวนั่นแหละครับ แต่จะมีช่องโหว่ที่มองไม่เห็นอยู่ ช่องโหว่นี้จะเล็กหรือใหญ่ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนของตัวเอง นอกจากมองเห็นได้ 360 องศาแล้ว เนตรสีขาวสามารถ มองเห็นเส้นพลังที่อยู่ในร่างกายได้ด้วย (ถ้าผมมีเนตรสีขาวจะเอาไว้แอบดู คนของผมคนเดียวโป๊ แต่เปลืองพลังงานเปล่าๆ ขอให้เปิดให้ดูดีกว่าง่ายดี)
เนจิเป็นนินจาอัจฉริยะ สามารถคิดค้น มวยอ่อนแปดทิศ 64 ฝ่ามือ วิชาที่สามารถโจมตีเส้นพลัง ทำให้ผู้ที่ถูกมวยอ่อนโจมตีไม่สามารถรีดเร้นจักร(พลังได้) นอกจากนี้ยังคิดค้น เคลื่อนสวรรค์ วิชาป้องกันตัวที่สามารถป้องกันการโจมตีทางกายภาพได้ทุกประเภทอีกด้วย ทั้งสองวิชานี้ เป็นวิชาลับที่ถ่ายทอดเฉพาะคนในตระกูลหลักเท่านั้น แต่เนจิคิดค้นขึ้นมาเองได้ สุดยอดเลย
ช่วงแรกของเรื่อง เนจิเป็นคนที่อยู่ในความมืดมิด มีแต่ความแค้นกับตระกูลหลักเพราะคิดว่าตระกูลหลักส่งพ่อของตัวเองฮิวงะ ฮิซาชิ ให้ตายแทนพี่ชายฝาแฝดที่เป็นเจ้าตระกูลฮิวงะ ฮิอาชิแต่หลังจากต่อสู้กับนารุโตะ เนจิถึงได้รู้ว่า เพื่อปกป้องตัวเนจิเอง พี่น้อง และคนในหมู่บ้านฮิวงะ ฮิซาชิ ยอมเสียสละชีวิตตัวเอง เพื่อยุติปัญหาทั้งหมด
หลังจากนั้นเนจิเลือกเส้นทางในชีวิตใหม่ เส้นทางที่ทำให้ตัวเองเก่งกาจขึ้นไม่น้อยหน้าใคร
ประวัติ ฮินาตะ
ประวัติ
ฮิวงะ ฮินาตะ คุโนะอิจิจาก หมู่บ้านโคโนฮะ ทายาทหญิงแห่งตระกูลหลักของกลุ่มฮิวงะ เมื่อฮินาตะอายุได้ 3 ปี วันเดียวกับที่ ฮิวงะ เนจิลูก พี่ลูกน้องจากตระกูลสาขา อายุ 4 ปี เนจิ ได้ถูกประทับอักขระ"ปักษาในกรง" เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าจะปกป้องตระกูลหลัก โดยเมื่อใดก็ตามที่ทรยศ สัญลักษณ์ปักษาในกรงจะส่งผลให้ผู้ใช้บาดเจ็บและล้มตาย ปักษาในกรงยังเป็นวิธีป้องกันความลับของเนตรสีขาว อักขระจะถูกกระตุ้นให้ทำลายความสามารถเนตรสีขาวในตัวบุคคลนั้น จุดนี่เองที่ทำให้เนจิ เกลียดฮินาตะ เพราะพ่อของเนจิได้ยอมเสียชีวิตเพื่อปกป้องตระกูลฮิวงะ ฮินาตะสูง164ซ.ม.หนัก47ก.ก
เนื้อเรื่อง
ฮิวงะ ฮินาตะเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างขี้อาย แอบชอบนารูโตะมากเวลาเจอหน้านารูโตะเมื่อไร เธอจะเงียบและหน้าแดงหรือไม่ก็จะเป็นลมไปทันทีในการสอบจูนิน ฮินาตะได้ต่อสู้กับเนจิในรอบคัดเลือกเข้ารอบสุดท้าย โดยฮินาตะจะพยายามเปลี่ยนวิถีชีวิตตัวเอง และด้วยแรงเชียร์ของนารูโตะ
โดยถึงฮินาตะรู้ว่าไม่สามารถชนะเนจิได้ แต่ฮินาตะได้สู้จนสุดความสามารถและแพ้สลบไป ในช่วงวันสอบสุดท้ายรอบสุดท้ายในตอนนั้นนารูโตะได้ พูดว่าสู้ๆนะฮินาตะ ทำให้ฮินาตะมีกำลังใจและในช่วงตอนที่นารูโตะสู้กับเนจิ ฮินาตะเกิดอาการป่วยแต่ยังโชคดีที่หน่วยลับที่นินจาแพทย์ (คาบุโตะปลอมตัว) ช่วยไว้ได้หลังจากเรื่องราวการตามหาซาสึเกะจบลง ซึ่งหลังจากนั้นนารูโตะโว้ยวายจะต้องตามหาซาสึเกะทำให้ฮินาตะต้องการช่วยนา รูโตะจึงเริ่มภารกิจตามหาแมลงชื่อบิกโค ในช่วงก่อนไปทำภารกิจฮินาตะที่กำลงเร่งรีบจนเกือบจะชนเนจิแต่ทว่าฮินาตะหลบ ได้พ้นด้วยกาหมุนขาซึ้งทำให้รู้ว่าฮินาตะตั้งใจฝึกซ้อมกับ อะบุราเมะ ชิโนะ และ อินุซึกะ คิบะ ทำให้เกิดท่ามวยอ่อน8ทิศ64หมัดแบบฉบับฮินาตะที่เป็นการผสมระหว่างคลื่น สวรรค์และ8ทิศ64หมัดซึ่งมีความอ่อนช้อย ในภาค2เธอกลับพร้อมกับความน่ารักแบบสาวมากขึ้นแต่เวลาเจอกับนารูโตะก็ยัง หน้าแดงจนเป็นลม
โดยถึงฮินาตะรู้ว่าไม่สามารถชนะเนจิได้ แต่ฮินาตะได้สู้จนสุดความสามารถและแพ้สลบไป ในช่วงวันสอบสุดท้ายรอบสุดท้ายในตอนนั้นนารูโตะได้ พูดว่าสู้ๆนะฮินาตะ ทำให้ฮินาตะมีกำลังใจและในช่วงตอนที่นารูโตะสู้กับเนจิ ฮินาตะเกิดอาการป่วยแต่ยังโชคดีที่หน่วยลับที่นินจาแพทย์ (คาบุโตะปลอมตัว) ช่วยไว้ได้หลังจากเรื่องราวการตามหาซาสึเกะจบลง ซึ่งหลังจากนั้นนารูโตะโว้ยวายจะต้องตามหาซาสึเกะทำให้ฮินาตะต้องการช่วยนา รูโตะจึงเริ่มภารกิจตามหาแมลงชื่อบิกโค ในช่วงก่อนไปทำภารกิจฮินาตะที่กำลงเร่งรีบจนเกือบจะชนเนจิแต่ทว่าฮินาตะหลบ ได้พ้นด้วยกาหมุนขาซึ้งทำให้รู้ว่าฮินาตะตั้งใจฝึกซ้อมกับ อะบุราเมะ ชิโนะ และ อินุซึกะ คิบะ ทำให้เกิดท่ามวยอ่อน8ทิศ64หมัดแบบฉบับฮินาตะที่เป็นการผสมระหว่างคลื่น สวรรค์และ8ทิศ64หมัดซึ่งมีความอ่อนช้อย ในภาค2เธอกลับพร้อมกับความน่ารักแบบสาวมากขึ้นแต่เวลาเจอกับนารูโตะก็ยัง หน้าแดงจนเป็นลม
เกร็ด
- ฮินาตะ เป็นตัวละครหญิงที่มีการโหวตมากที่สุด
- ในเรื่องเรามักจะเห็นคนที่ช่วยฮินาตะนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคิบะ ทำให้เราสงสัยได้ว่าคิบะชอบฮินาตะหรือเปล่า
- เนจิมักจะเรียกฮินาตะว่า คุณฮินาตะหรือท่านฮินาตะ
- ฮินาตะเป็นคนที่กินจุมาก สามารถกินราเม็งของร้านอิจิรากุได้46ชามเลยทีเดียว
- ฮินาตะได้บอกรักนารุโตะ และปกป้องนารูโตะจากเพ็น ในการดึงวิญญาญจิ้งจอกเก้าหางในตอนที่ 437
- ประวัติ ซาอิ
- ชื่อ ซาอิ
สังกัด หมู่บ้านโคโนฮะ
อาจารย์ ไม่มีข้อมูล
วันเกิด ไม่มีข้อมูล
กรุ๊ปเลือด ไม่มีข้อมูล
ประวัติฮิวงะ ซาอิะ
ซาอิ หน่วยรากไม้ ของโคโนฮะ (หน่วยรากคือ หน่วยที่ลับ กว่า หน่วยลับ) ซึ่งเป็นลูกน้อง ดันโซ มาร่วมทีมกับนารุโตะ ในการตามหาซาซึเกะ (ภารกิจจริงๆของเค้าคือฆ่าซาซึเกะ) แต่ทำท่าทีทรยศไปเข้าพวกกับโอโรจิมารุ (หลอกโอโรจิมารุ) ภายหลัง ซึ้งความรักเพื่อนของนารุโตะจึงไม่ฆ่าซาซึเกะแต่กล่อมให้กลับหมู่บ้านแทน ภายหลังเข้าพวกนารุโตะถาวร (สมาชิกใหม่ในกลุ่ม)
ประวัติ จิไรยะ
จิไรยะ อดีตศิษย์ของ โฮคาเงะรุ่นที่ 3(ชารุโทบิ) พร้อมกับ โอโรจิมารุ และ ซึนาเดะ ที่ซึ่งรู้จักในชื่อ สามนินจาในตำนาน จิไรยะเป็นอาจารย์โดยตรงของ โฮคาเงะรุ่นที่ 4และยังเป็นอาจารย์ชั่วคราวให้กับเพนและโคนัน(แสงอุษา) จิไรยะ รู้จักในชื่อ "เซียนกบ" เขาชอบท่องเที่ยวผจญภัย ในระหว่างการเดินทาง เขาได้แต่งหนังสือ สวรรค์รำไร หรือ อะจึ๋ยสวรรค์รำไร และได้ฉายาว่า "เซียนลามก" หรือ "ตาเซียนลามก"
ในวัยเด็ก จิไรยะเป็นเกะนินโดยมีอาจารย์คือ โฮคาเงะรุ่นที่ 3 หลายปีผ่านไปจากเหตุการณ์ที่ โอโรจิมารุถอนตัวออกจากหมู่บ้าน เขาก็เริ่มออกเดินทางเช่นกัน เขาออกเดินทางเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตของเขา ขณะที่เขาเดินทางเขาก็แต่งหนังสืออ่าจึ๋ยๆ ไปด้วย เมื่อจิไรยะกับมายังโคโนฮะอีกครั้ง นารูโตะได้ใช้คาถายั่วยวนจิไรยะ(คาถามหารั่นจวน) จนจิไรยะทนไม่ไหวและเขาก็ได้ และได้ออกเดินทางไปพร้อมกับนารูโตะพร้อมทั้งสอนทักษะระดับโฮคาเงะต่างๆ ให้กับนารูโตะ จนกระทั่งเขารู้สึกทึ่งกับความสามารถที่นารูโตะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้จิไรยะได้ทำสัญญาเลือดกับ กบแดง กามะบุนตะ
จิไรยะมีงานอดิเรกคือแอบดูผู้หญิงอาบน้ำเป็นประจำ แม้แต่ในขณะที่นารูโตะกำลังลำบาก (สำหรับเป็นข้อมูลในหนังสือสวรรค์รำไร)
หลังจากทีม"งู"ของซาสึเกะ และทีมโคโนะฮะได้ออกเคลื่อนไหวเพื่อหาตัวอุจิวะ อิทาจิ จิไรยะได้ลักลอบเข้าหมู่บ้านอาเมะ งาคุเระได้สำเร็จ เขาได้ต่อสู้กับเพน หรือ นางาโตะ ซึ่งมีถึง 6 ร่าง โดยครั้งนี้เขาได้เผยร่างเซียนออกมาสู้กับเพน และในขณะที่ได้รู้ถึงร่างจริงของเพน เขาก็ได้โดนเพนโจมตีจนแขนขาดและตัวตายในที่สุด แต่จิไรยะได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเพนก่อนจะสิ้นลมหายใจไป ซึนาเดะและจิไรยะได้นั่งพูดคุยในเรื่องอดีตกัน ซึนาเดะบอกว่าตัวเองไม่มีคุณสมบัติเป็น โฮคาเงะ เพราะโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เคยบอกไว้ว่าคนที่จะเป็นโฮ คาเงะคนต่อไปคือ จิไรยะนั่นเอง
- ชื่อของจิไรยะ (自来也) มีความหมายว่า มาตามทางชีวิตของตัวเอง ซึ่งเป็นลักษณะของตัวจิไรยะเอง
- ชื่อของตัวละคร จิไรยะ ซึนาเดะ และ โอโรจิมารุ มาจากวรรณกรรมเรื่อง "จิระอิยะโงะเก็ตซึโมะโนะงะตะริ" (児雷也豪傑物語, ความหมาย "ตำนานจิไรยะผู้กล้าหาญ") โดยในเนื้อเรื่องจิไรยะและซึนาเดะเป็นคู่สามีภรรยากัน
- ฉายา - เซียนลามก
ประวัติ ซึนาเดะ
1 ใน 3 สุดยอดนินจาในตำนาน หลานสาวของโฮคาเงะรุ่นที่ 2 มีความสามารถด้านการแพทย์ที่เป็นเลิศ หลังจากที่เธอสูญเสียน้องชายและคนรัก ซึนาเดะก็แยกทางจากหมู่บ้านออกไปพร้อม ซึซึนะ คนสนิทที่คอยติดตาม ซึนาเดะ ใช้ชีวิตไปกับการเข้าบ่อนพนัน และก็เจ๊งทุกที จนได้รับฉายาจากเหล่าเซียนพนันว่า หมูในตำนาน
ภายหลังได้พบกับจิไรยะและนารุโตะ ที่มาเชิญให้กลับไปรับตำแหน่งโฮคาเงะ รุ่นที่ 5 ซึนาเดะ ปฏิเสธในทีแรก และพูดจาดูถูกโฮคาเงะ ทำให้นารุโตะโกรธมาก และท้าพนันกับซึนาเดะ ว่าเขาจะฝึกวิชากระสุนวงจักรให้สำเร็จใน 1 อาทิตย์ ซึนาเดะรับคำท้า
ต่อมาซึนาเดะเกิดเรื่องต่อสู้กับโอโรจิมารุ นารุโตะ จิไรยะ ตามมาช่วย และทำให้โอโรจิมารุ ล่าถอยไปได้ พร้อมทั้งนารุโตะ ได้สำเร็จวิชากระสุนวงจักร ในการต่อสู้กับคาบูโตะ ซึนาเดะจึงมอบสร้อยคอสำคัญให้แก่นารุโตะ พร้อมจูจุ๊บที่หน้าผากนารุโตะ และยอมกลับมารับตำแหน่งโฮคาเงะ รุ่นที่ 5
หลังจาก ซาสึเกะ ได้ไปเข้ากลุ่มโอโรจิมารุ โคโนะฮะ ต้องเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับศึกในอีก 3 ปี ข้างหน้า นารุโตะแยกทางไปฝึกกับจิไรยะ ซากุระที่รู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถซะจริงๆ จึงขอเป็นลูกศิษย์ซึนาเดะ ให้สอนวิชาแพทย์เพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกพ้อง และซึนาเดะก็ถ่ายทอดวิชาให้แก่ซากุระอย่างเต็มที่
ข้อมูลส่วนตัว
ลูกศิษย์ : ฮารุโนะ ซากุระ
เพื่อนที่ฝึกร่วมทีม : จิไรยะ , โอโรจิมารุ
อาจารย์ : ซารุโทบิ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3
สัตว์ที่ทำสัญญาเลือด : ทากยักษ์
ภายหลังได้พบกับจิไรยะและนารุโตะ ที่มาเชิญให้กลับไปรับตำแหน่งโฮคาเงะ รุ่นที่ 5 ซึนาเดะ ปฏิเสธในทีแรก และพูดจาดูถูกโฮคาเงะ ทำให้นารุโตะโกรธมาก และท้าพนันกับซึนาเดะ ว่าเขาจะฝึกวิชากระสุนวงจักรให้สำเร็จใน 1 อาทิตย์ ซึนาเดะรับคำท้า
ต่อมาซึนาเดะเกิดเรื่องต่อสู้กับโอโรจิมารุ นารุโตะ จิไรยะ ตามมาช่วย และทำให้โอโรจิมารุ ล่าถอยไปได้ พร้อมทั้งนารุโตะ ได้สำเร็จวิชากระสุนวงจักร ในการต่อสู้กับคาบูโตะ ซึนาเดะจึงมอบสร้อยคอสำคัญให้แก่นารุโตะ พร้อมจูจุ๊บที่หน้าผากนารุโตะ และยอมกลับมารับตำแหน่งโฮคาเงะ รุ่นที่ 5
หลังจาก ซาสึเกะ ได้ไปเข้ากลุ่มโอโรจิมารุ โคโนะฮะ ต้องเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับศึกในอีก 3 ปี ข้างหน้า นารุโตะแยกทางไปฝึกกับจิไรยะ ซากุระที่รู้สึกว่าตนเองไร้ความสามารถซะจริงๆ จึงขอเป็นลูกศิษย์ซึนาเดะ ให้สอนวิชาแพทย์เพื่อเป็นประโยชน์แก่พวกพ้อง และซึนาเดะก็ถ่ายทอดวิชาให้แก่ซากุระอย่างเต็มที่
ข้อมูลส่วนตัว
ลูกศิษย์ : ฮารุโนะ ซากุระ
เพื่อนที่ฝึกร่วมทีม : จิไรยะ , โอโรจิมารุ
อาจารย์ : ซารุโทบิ โฮคาเงะ รุ่นที่ 3
สัตว์ที่ทำสัญญาเลือด : ทากยักษ์
ถึงแม้ว่าชิซึเนะจะไม่มีบทบาทในเนื้อเรื่องมากนัก แต่ก็นับได้ว่าเธอเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่มีความพิเศษอยู่ในตัว ในแง่ที่ว่า เธอเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่ซึนาเดะไว้ใจ นอกจากนี้ เธอยังเป็นคนรอบคอบ เป็นนักปฏิบัติและมองทุกสิ่งอย่างมีเหตุผล ตามความเป็นจริง ต่างจากซึนาเดะ ดังนั้น เธอจึงไม่เห็นด้วยกับนิสัยชอบพนันขันต่อของซึนาเดะและการใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ซึนาเดะตัดสินใจอะไรแผลงๆ เป็นต้นว่า เริ่มการพนันครั้งใหญ่ เราจึงมักเห็นชิซึเนะแสดงออกด้วยความสติแตกทุกครั้ง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเธอจะซื่อสัตย์ต่อซึนาเดะ แต่ลึกๆแล้วชิซึเนะก็มีจุดยืนเป็นของตัวเองและยินดีที่จะเชื่อการตัดสินใจของตัวเองมากกว่า หากว่าการตัดสินใจนั้นจะนำไปสู่สิ่งที่เธอเชื่อมั่นว่าดีกว่า เช่น ตอนที่โอโรจิมารุมายื่นข้อเสนอให้ซึนาเดะ ชิซึเนะก็ตั้งใจจะขัดขวางอาจารย์ของตัวเองเอาไว้ เพื่อไม่ให้รับข้อเสนอนั้นและถึงขั้นจะยอมตายเพื่อหยุดอีกฝ่ายให้ได้ ซึ่งก็เป็นโชคดีของเธอที่รอดชีวิตมาและซึนาเดะก็ไม่ได้ทรยศหมู่บ้าน หรือ ช่วงที่ทั้งสองกลับมาที่โคโนะฮะ เธอก็เคยรายงานการตัดสินใจของซึนเดะให้ที่ปึกาอาวุโสทั้งสองทราบ จนเกือบขัดแย้งกับอาจารย์ของตนมาแล้ว เป็นต้น
ประวัติ โอโรจิมารุ
ชื่อ โอโรจิมารุ มาจากชื่อตัวละครในวรรณกรรมเรื่อง "จิระอิยะโงะเก็ตซึโมะโนะงะตะริ" (児雷也豪傑物語, เรื่องราวของจอมเจ้าชู้จิไรยะ) ซึ่งมี โอโรจิมารุ จิไรยะ และ ซึนาเดะ โดยในเนื้อเรื่องจิไรยะและซึนาเดะเป็นคู่สามีภรรยากัน โดยโอโรจิมารุมีเวทมนตร์งู
ในตำนานญี่ปุ่น โอะโระจิ หรือ ยะมะตะโนะโอะโระจิ (八岐大蛇) เป็นชื่องูแปดหัว ซึ่งพ่ายต่อต่อเทพเจ้าซุซะโน โดยคำว่า โอ (大) ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่าใหญ่ และ โระจิ หรือ เฮะบิ ( 蛇) มีความหมายว่า งู
ประวัติ
โอโรจิมารุอดีตนินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ เรียนวิชาจากโฮคาเงะรุ่นที่ 3 พร้อมกับซึนาเดะและจิไรยะ โดยเมื่อสมัยที่ยังอยู่ในโคโนฮะ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในสามนินจาในตำนาน โอโรจิเป็นนินจาที่มีพรสวรรค์พยายามที่จะเรียนรู้วิชานินจาทุกชนิดที่มี และได้ทดลองวิชาต่างๆ กับร่างกายของนินจาคนอื่น รวมทั้งการผ่าตัดศพ เพื่อให้สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างอมตะ เพื่อสามารถสำเร็จวิชานินจาทุกชนิดที่มีมา ผลปรากฏว่าทำให้หลายคนในหมู่บ้านไม่พอใจ รวมทั้งโฮคาเงะรุ่นที่ 3 จนเมื่อมีการคัดเลือกโฮคาเงะรุ่นต่อมา โอโรจิมารุไม่ได้รับเลือก ทำให้โอโรจิมารุแค้นโฮคาเงะรุ่นที่ 3 และได้หนีออกจากหมู่บ้านไป
ต่อมาโอโรจิมารุได้ก่อตั้งหมู่บ้านโอะโตะ และได้เข้าร่วมกับกลุ่มแสงอุษา ในสามนินจาโอโรจิมารุเด่นสุด ขอย้ำว่าอยากให้โอโรจิมารุกลับมาโดยวิธีอะไรก็ชัง หรือออกมาจากคาบูโตะก็ได้
คาถา-วิชานินจา
นอกจากความสามารถทางด้านนินจา โอโรจิมารุ สามารถย้ายร่างของตัวเองไปอยู่ในร่างของคนอื่นได้ อีกด้วยและยังมีลูกน้อง คือ 1.จิโรโบ 2.คิโดมารุ 3.ฝาแฝดซาคอน (น้อง) อูคอน (พี่) 4.ทายูยะ 5.คิมิมาโร่ 6.คาบูโตะ ความสามารถของจิโรโบคือ คุกดิน พลิกพสุธาและยิงกระสุนยักพสุธา
คาถา
- คาถาสัมปเวสีคืนชีพ
- คาถามือเงาอสรพิษรัดพัน
- คาถานินจางูแฝดพลีชีพ
- คาถาหัตถ์อสรพิษประสานเงา
วิชานินจา
- วิชาอสรพิษลอกคาบ
- วิชาลื้นอสรพิษ(ตอนเปิดวิชาที่สู้กับโฮคาเงะรุ่นที่3)
- วิชาย้ายชีพอมตะ
เนื้อเรื่อง
โอโรจิมารุได้แอบเข้าหมู่บ้านโคโนฮะในช่วงการสอบจูนิน โดยปลอมตัวมาโดยการลอกหน้าของนินจาหมู่บ้านอื่นใส่ในหน้าของตัวเอง และได้วางแผนให้นินจาจากหมู่บ้านโอะโตะ เข้ามาสอบในขณะเดียวกันในฐานะอาจารย์นินจาประจำหมู่บ้านโอะโตะ โดยในระหว่างการสอบรอบที่สองในป่า โอโรจิมารุได้มาโจมตีกลุ่มของ นารูโตะ เพื่อต้องการร่างกายของซาสึเกะ ไปเป็นร่างของตัวเอง โดยได้ผนึกอักขระไว้ที่คอของซาสึเกะ และได้หนีไป หลังจากนั้นในระหว่างรอบคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้ปรากฏตัวออกมาในฐานะอาจารย์ประจำหมู่บ้านโอะโตะ คอยสังเกตการณ์ ภายหลังรอบคัดเลือกได้จบลง แผนการโจมตีหมู่บ้านโคโนฮะ จากความร่วมมือของหมู่บ้านซึนะและหมู่บ้านโอโตะได้เตรียมอย่างสมบูรณ์ ในวันสอบจูนินรอบสุดท้าย โอโรจิมารุได้สังหารคาเซะคาเงะรุ่นที่ 4 ผู้เป็นพ่อของกาอาระ และได้ปลอมตัวเป็นคาเซะคาเงะ นั่งดูการแข่งขันข้างๆ กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 เมื่อสัญญาณการโจมตีดังขึ้น โอโรจิมารุได้ต่อสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยมีนินจาจากหมู่บ้านโอะโตะอีก 4 คน ช่วยกางคาถาม่านพลังไม่ให้คนอื่นเข้ามายุ่งในระหว่างที่โอโรจิมารุสู้กับโฮคาเงะรุ่นที่ 3 โดยในระหว่างการต่อสู้ โอโรจิมารุได้ใช้ร่างของลูกน้องตัวเองสังเวยเพื่อที่จะใช้คาถาสัมภเวสีคืนชีพร่างของ โฮคาเงะรุ่นที่ 1 และ โฮคาเงะรุ่นที่ 2 มาช่วยต่อสู้ ภายหลังการต่อสู้สิ้นสุดลง โฮคาเงะรุ่นที่ 3 ไม่สามารถเอาชนะโอโรจิมารุซึ่งเป็นอดีตศิษย์ได้ และได้เสียชีวิตลง พร้อมทั้งผนึกวิชานินจาบนมือทั้งสองข้างของโอโรจิมารุ ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้วิชานินจาได้อีกต่อไป
การต่อสู้สิ้นสุดลงโอโรจิมารุ ได้ตัดสินใจออกตามหาซึนาเดะ นินจาแพทย์อดีตเพื่อนร่วมทีมเพื่อให้มาช่วยรักษามือทั้งสองข้าง โดยได้ตกลงกับซึนาเดะว่า ถ้ารักษามือทั้งสองข้างให้ จะช่วยปลุกร่างของนาวากิ น้องชาย และดันอดีตแฟนของซึนาเดะ ที่ทั้งสองคนเสียชีวิตในช่วงของสงครามนินจาคืนมา แต่ซึนาเดะใช้เวลาตัดสินใจ 1 อาทิตย์และได้ปฏิเสธข้อเสนอของโอโรจิมารุ และได้ประกาศจะล้างแค้นให้ทุกคนในหมู่บ้านโคโนฮะ โดยทั้งสองคน รวมทั้ง จิไรยะ ได้เกิดการต่อสู้กัน แล้วโอโรจิมารุก็ได้หนีไป
สุดท้ายโอโรจิมารุได้ตัดใจและได้เปลี่ยนวิญญาณของตัวเองไปอยู่ในร่างของนินจาคนอื่นเพื่อให้หายจากผนึกของโฮคาเงะรุ่นที่ 3 ในขณะเดียวกันก็รอการเปลี่ยนวิญญาณไปอยู่ในร่างของซาสึเกะ ที่หนีมาจากหมู่บ้านโคโนฮะ และ นารุโตะก็ได้ต่อสู้กับ ซาสึเกะโดยที่นารุโตะไม่ยอมให้ซาสึเกะ ไป จึง ต่อสู้เพื่อห้ามไว้ ถัดมา นารุโตะได้สู้กับ ซาสึเกะ ตัวเองสลบไป แล้วซาสึเกะจึงไปที่หมู่บ้านโอะโตะ เพื่อให้โอโรจิมารุสอนวิธีเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองหรือให้ตัวเองเก่งขึ้น
ผ่านไป 2 ปี ทีมนารุโตะที่ได้รับคำสั่งให้มาพบกับสายลับของซาโซริ ซึ่งก็คือ ยาคุชิ คาบุโตะ แต่คาบุโตะที่ร่วมมือกับโอโรจิมารุก่อนแล้ว ได้ร่วมมือกับโอโรจิมารุต่อสู้กับทีมของนารุโตะ ทำให้นารุโตะแสดงพลังจิ้งจอกเก้าหางออกมาถึง 4 หาง แล้วโอโรจิมารุก็หนีไปพร้อมกับซาอิ
ฉายา
- สามนินจาในโลกมืดแห่งสยาม
- เซียนงูขาว
- จงสะบั้นลื้น โอโรจิมารุ
- ดาบ จงชี้ทาง คุซานางิ
เกร็ดข้อมูล
ในอดีตตอนที่ 3 นินจาในตำนานยังอยู่ครบ3คน จิไรยะ ซึนาเดะ โอโรจิมารุ ได้ไปที่หมู่บ้านอาเมะงาคุเระเพื่อจะไปยุติสงครามภายในแคว้น แต่ทว่าได้ต่อสู้กับฮันโซ (1ใน2ฝ่ายที่แบ่งกลุ่มในหมู่บ้านอาเมะงาคุเระอีกฝ่ายคือเพน) แต่ก็ไม่สามารถฆ่าซาลามานเดอร์ฮันโซได้
ฮันโซมีฉายาว่า ซาลามานเดอร์ ฮันโซ ซึ่งในแวดวงนินจาไม่มีใครไม่รู้จักเค้าเนื่องจากเค้าเก่งกาจแต่สุดท้าย ฮันโซก็ถูกเพนนี่ (หัวหน้าแสงอุษาที่มีโทบิ (อุจิวะ มาดาระ) ชักใยอยู่เบื้องหลัง) ฆ่าตายทั้งคนในตระกูล และผู้ที่เคยติดต่อด้วยทั้งหมดโอจิมารุ
ประวัติ ชิกามารุ
วันเกิด 22 ตุลา (อายุ 16 ปี ราศีกันย์)
ส่วนสูง 170 เซนฯ น้ำหนัก 53.4 กิโล กรุ๊ปเลือด AB
นิสัย เยือกเย็น ขี้รำคาญ
คู่ต่อสู้ที่อยากลองสู้ด้วย น่ารำคาญจะตาย ไม่มีหรอก
งานอดิเรก นอนกลางวัน โชงิ
ส่วนสูง 170 เซนฯ น้ำหนัก 53.4 กิโล กรุ๊ปเลือด AB
นิสัย เยือกเย็น ขี้รำคาญ
คู่ต่อสู้ที่อยากลองสู้ด้วย น่ารำคาญจะตาย ไม่มีหรอก
งานอดิเรก นอนกลางวัน โชงิ
นารา ชิกามารุทายาท ตระกูลนารา ที่ใช้วิชาควบคุมเงา ชิกามารุมีนิสัยเรื่อยๆเปื่อยๆ และไม่ค่อยชอบผู้หญิงเท่าไหร่นัก เพราะพ่อบังเกิดเกล้าเป็นคนที่เกลียมัวขนาดหนัก แม้พ่อจะพร่ำสอนวิถีแห่งสุภาพบุรุษให้แก่ชิกามารุอยู่บ่อยครั้งก็ตาม
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะดูเฉยๆเบื่อๆ แต่เขาก็เป็นอัจริยะในด้านการวิเคราะห์สถานการณ์ และวางแผนต่อสู้ ในการสอบจูนิน แม้ว่าจะยอมแพ้เพราะเบื่อที่จะสู้กับผู้หญิงก็ตาม แต่คณะกรรมการได้เห็นความฉลาดเฉลียวของเขา ทำให้เขาสอบผ่านเป็นจูนินในที่สุด
ในเวลาที่มีภารกิจที่พวกเกะนินอย่างนารุโตะต้องออกไปจัดการ ชิกามารุ มักจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าทีม และเป็นคนวางแผนให้เพื่อนๆสามารถปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จลุล่วงได้ แม้ว่าการชิงตัวซาสึเกะจะจบที่ความล้มเหลว แต่เขาก็ทำให้เพื่อนๆมีชีวิตรอดกลับมาได้ทุกคน และ เอาชนะนินจาของโอโรจิมารุได้ทั้งหมด
หลังการต่อสู้ครั้งนั้น ทำให้เขาสนิทสนมกับ เทมาริ นินจาซึนะ พี่สาวของกาอาระมากขึ้น และได้รับหน้าที่ประสานงานกันในการสอบจูนินของภาค 2 ทำให้เพื่อนๆเริ่มสงสัยว่า คู่นี้แอบกิ๊กๆกันรึเปล่า
แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะดูเฉยๆเบื่อๆ แต่เขาก็เป็นอัจริยะในด้านการวิเคราะห์สถานการณ์ และวางแผนต่อสู้ ในการสอบจูนิน แม้ว่าจะยอมแพ้เพราะเบื่อที่จะสู้กับผู้หญิงก็ตาม แต่คณะกรรมการได้เห็นความฉลาดเฉลียวของเขา ทำให้เขาสอบผ่านเป็นจูนินในที่สุด
ในเวลาที่มีภารกิจที่พวกเกะนินอย่างนารุโตะต้องออกไปจัดการ ชิกามารุ มักจะได้รับเลือกเป็นหัวหน้าทีม และเป็นคนวางแผนให้เพื่อนๆสามารถปฏิบัติภารกิจจนสำเร็จลุล่วงได้ แม้ว่าการชิงตัวซาสึเกะจะจบที่ความล้มเหลว แต่เขาก็ทำให้เพื่อนๆมีชีวิตรอดกลับมาได้ทุกคน และ เอาชนะนินจาของโอโรจิมารุได้ทั้งหมด
หลังการต่อสู้ครั้งนั้น ทำให้เขาสนิทสนมกับ เทมาริ นินจาซึนะ พี่สาวของกาอาระมากขึ้น และได้รับหน้าที่ประสานงานกันในการสอบจูนินของภาค 2 ทำให้เพื่อนๆเริ่มสงสัยว่า คู่นี้แอบกิ๊กๆกันรึเปล่า
ประวัติ เท็นเท็น
ชื่อ : เท็นเท็น
อายุ : 16 ปี
เกิด : 9 มีนาคม
ส่วนสูง : 155.6 cm
น้ำหนัก : 43.1 kg.
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : ตอนที่ 36 ความเหนื่อยหน่ายของซากุระ (รวมเล่มเล่มที่5)
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : ตอนที่ 21
หมู่บ้าน : โคโนะฮะ
ความหมายของชื่อ : การเคลื่อนที่ หรือ จุด ในตัวอักษรฮิรางานะ หรือ คาตาคานะ ตามไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น จะเป็นเครื่องหมายที่ใส่เพื่อเปลี่ยนเสียงของตัวสะกด ให้กลายเป็นเสียงสั่น
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : ไก,ลี,เนจิ,คิซาเมะ,นารุโตะ,ซากุระ,ซาสึเกะ ฯลฯ
ข้อมูลนินจา
รหัสลงทะเบียน : 012612
ระดับ : จูนิน
ทีม : ไมโตะ ไก / ฮิวงะ เนจิ/ ร๊อค ลี
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน :
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : 12
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : ?
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ :
(D-Rank) : 24
(C-Rank) : 13
(B-Rank) : 0
(A-Rank) : 0
(S-Rank) : 0
อายุ : 16 ปี
เกิด : 9 มีนาคม
ส่วนสูง : 155.6 cm
น้ำหนัก : 43.1 kg.
ปรากฏตัวครั้งแรก Manga : ตอนที่ 36 ความเหนื่อยหน่ายของซากุระ (รวมเล่มเล่มที่5)
ปรากฏตัวครั้งแรก Anime : ตอนที่ 21
หมู่บ้าน : โคโนะฮะ
ความหมายของชื่อ : การเคลื่อนที่ หรือ จุด ในตัวอักษรฮิรางานะ หรือ คาตาคานะ ตามไวยากรณ์ภาษาญี่ปุ่น จะเป็นเครื่องหมายที่ใส่เพื่อเปลี่ยนเสียงของตัวสะกด ให้กลายเป็นเสียงสั่น
ตัวละครที่เกี่ยวข้อง : ไก,ลี,เนจิ,คิซาเมะ,นารุโตะ,ซากุระ,ซาสึเกะ ฯลฯ
ข้อมูลนินจา
รหัสลงทะเบียน : 012612
ระดับ : จูนิน
ทีม : ไมโตะ ไก / ฮิวงะ เนจิ/ ร๊อค ลี
ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบเกะนิน จูนิน :
จบการศึกษาจากรร.นินจา เมื่ออายุ (Academy Grad Age) : 12
ช่วงอายุที่สอบจูนิน (Chuunin Exam Age) : ?
จำนวนภารกิจที่ปฏิบัติ :
(D-Rank) : 24
(C-Rank) : 13
(B-Rank) : 0
(A-Rank) : 0
(S-Rank) : 0
เท็นเท็นขณะสู้กับเทมาริในการสอบคัดตัวก่อนสอบรอบ3
ในเดือนถัดมา เท็นเท็นได้ช่วยเนจิในการฝึกซ้อมเพื่อเตรียมตัวให้กับเนจิเพื่อต่อสู้กับนา รูโตะในการสอบรอบ3 เมื่อถึงวันแข่งเท็นเท็นก็ได้ไปยังสนามแข่งขันเพื่อที่จะดูการต่อสู้ระหว่าง เนจิและนารูโตะ เธอคุ้นเคยกับการต่อสู้ของเนจิเป็นอย่างดีเธอจึงสามารถทายได้ว่าเนจิจะตอบ โต้การจู่โจมของนารุโตะอย่างไร เท็นเท็นคิดว่าความแข็งแกร่งของนารุโตะในตอนนี้นั้นยังไงเนจิก็ไม่มีทางที่ จะแพ้นารูโตะอย่างแน่นอน แต่เธอก็ต้องประหลาดใจ เพราะการแข่งครั้งนั้น นารูโตะเป็นฝ่ายชนะ เธอจึงยอมรับในความสามารถและความแข็งแกร่งของนารูโตะ ในที่สุด หลังจากนั้นทีมของพวกเธอก็ได้ฝึกกันต่อไป โดยเท็นเท็นช่วยเนจิในการฝึกเนตรสีขาวของเขาให้มีประสิทธิภาพในการมองเห็น มากขึ้น
ประวัติ เทมาริ
นินจาสาวจากแคว้นซึนะ ลูกพี่ลูกน้องของกาอาระ มีอาวุธเป็นพัดอันใหญ่ที่สามารถอัญเชิญอสูรคามะทะริได้ นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมลมได้ด้วย ในการสอบจูนิน เทมาริแพ้ต่อชิกามารุ
แต่กลับได้ผ่านเข้ารอบ เพราะชิกามารุ ขอยอมแพ้
เทมาริ พร้อมทั้งกาอาระ และคันคุโร่ นินจาจากหมู่บ้านซึนะได้เข้าสอบจูนินที่หมู่บ้านโคโนฮะ ในการสอบคัดเลือกเข้าสู่รอบสุดท้าย ได้ชนะเท็นเท็นอย่างรวดเร็ว และได้ทำให้ร็อค ลีโกรธเมื่อขว้างร่างของเท็นเท็นอัดเข้ากับกำแพง และได้ว่าเท็นเท็นอ่อนแอ ในรอบสุดท้ายสู้แพ้ต่อ นารา ชิกามะรุ แต่ชิกามะรุได้ขอยอมแพ้ภายหลังสู้เสร็จ
ในระหว่างช่วงที่พวกชิกามะรุได้ออกมาตามตัวอุจิวะ ซาสึเกะกลับหมู่บ้าน เทมาริได้เข้ามาช่วยชิกามารุต่อสู้กับทายูยะและได้ปราบทายูยะอย่างง่ายดาย
สามปีต่อมาเทมาริได้รับหน้าที่เป็นกรรมการประสานงานการคุมสอบของหมู่บ้านซึนะ โดยได้เดินทางไปมาระหว่างหมู่บ้านโคโนฮะและหมู่บ้านตัวเอง ภายหลังจากที่ได้รู้ข่าวว่ากาอาระโดนลักพาตัว และคันคุโร่บาดเจ็บสาหัส เทมาริได้กลับไปที่หมู่บ้านและวางแผนไปช่วยกาอาระกลับมาพร้อมเมื่อคันคุโร่หายป่วย และเดินทางไปกับคันคุโร่เพื่อคุ้มกันกาอาระในการประชุมคาเงะทั้งห้า
เทมารินินจาสาวจากหมู่บ้านซึนะ เป็นลูกพี่ลูกน้องกับ กาอาระและคันคุโร่ มีพัดอันใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลังเป็นอาวุธ โดยมีความสามารถเกี่ยวกับลม และสามารถอัญเชิญอสูรคาไมทาจิที่ชื่อคามะทะริมาช่วยต่อสู้ได้ เทมาริสูง170ซ.ม.หนัก41.5ก.ก.
คาถาอันเชิญ...ระบำฟาดฟัน
คาถาอันเชิญ...ระบำสายลม
คาถาเคียวสายลม
คาถาพัดสังหาร
คาถาผงพายุทราย
คาถาลมปั่นป่วน
คาถาอันเชิญ...ระบำสายลม
คาถาเคียวสายลม
คาถาพัดสังหาร
คาถาผงพายุทราย
คาถาลมปั่นป่วน
ประวัติ อิโนะ
อิโนะมีความสามารถในการสิงร่างคนอื่นวิชานินจาของตระกูลยามานากะ และสามารถบังคับให้ร่างที่โดนสิงปฏิบัติตามที่ตัวเองต้องการ แต่มีข้อเสียคือเมื่อสิงร่างผู้อื่น ร่างจริงจะไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ซึ่งง่ายต่อการตกเป็นเป้าโจมตี และมากกว่านั้นเมื่อร่างที่เข้าไปสิงบาดเจ็บ อิโนะจะบาดเจ็บตามไปด้วย
นินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ อยู่ทีม 10 ทีมเดียวกับ ชิกามารุ และ โจจิ แอบชอบ อุจิวะ ซาสึเกะและเป็นคู่แข่งทางความรักคนสำคัญของฮารุโนะ ซากุระ แต่เดิมอิโนะและซากุระเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็ก โดยอิโนะพยายามช่วยให้ซากุระมีความเชื่อมั่นในตัวเอง จนกระทั่งวันหนึ่งซากุระได้มาบอกกับฮิโนะว่าชอบซาสึเกะ ทำให้ฮิโนะเสียใจที่ชอบคนเดียวกับเพื่อนตัวเองจึงปกปิดเรื่องที่เธอชอบซาสึ เกะเหมือนซากุระไว้ วันหนึ่งซากุระรู้เข้าว่าฮิโนะชอบซาสึเกะจึงเป็นคู่เเข่งกันตั้งแต่นั้นเป็น ต้นมาอิโนะได้เข้าสอบจูนินพร้อมกับเพื่อนทีม 10 ทั้งสามคน โดยในการสอบรอบแรก สอบข้อเขียน อิโนะได้เข้าสิงร่างคนอื่นเพื่อแอบดูข้อสอบ และได้ช่วย ชิกามารุ และ โจจิ เพื่อนร่วมทีมโดยการสิงร่างเพื่อนร่วมทีมเพื่อกาข้อสอบให้ ในการสอบรอบที่สองในป่า อิโนะได้เห็นซากุระถูกรุมทำลายโดนนินจาจากหมู่บ้านโอโตะ อิโนะตัดสินใจเข้ามาช่วยพร้อมทั้งลากเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคน ตอนสอบจูนินรอบคัดเลือกเข้ารอบที่สาม ฮิโนะได้สู้กับซากุระ โดยเกือบจะชนะซากุระโดยการสิงร่างซากุระและจะประกาศยอมแพ้ภายในร่างซากุระ แต่ปรากฏว่าซากุระอีกคนตื่นมาไล่อิโนะออกจากร่าง และได้ต่อยกันสลบทั้งคู่ผลตัดสินให้ทั้งคู่ตกรอบ
ข้อมูลส่วนตัววันเกิด : 23 กันยายน
กรุ๊ปเลือด : B
แคว้น : โคโนะฮะ
เพื่อนสนิท : ฮารุโนะ ซากุระ , อาคิมิจิ โจจิ , ยามานากะ อิโนะ
อาจารย์ : ซารุโทบิ อาสึม่า
ข้อมูลส่วนตัววันเกิด : 23 กันยายน
กรุ๊ปเลือด : B
แคว้น : โคโนะฮะ
เพื่อนสนิท : ฮารุโนะ ซากุระ , อาคิมิจิ โจจิ , ยามานากะ อิโนะ
อาจารย์ : ซารุโทบิ อาสึม่า
ยามานากะ อิโนะ คุโนอิจิที่บ้านเปิดร้านขายดอกไม้ เป็นพวกบ้าคลั่ง อุจิวะ ซาซึเกะ และเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งของ ซากุระ ยอมหักไม่ยอมงอ ไม่ยอมแพ้และยอมน้อยหน่าต่อซากุระเลย ใช้วิชา นินจาคาถาจิตย้ายร่าง ใช้ย้ายร่างไปควบคุมร่างของคู่ต่อสู้ ช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ได้รับความเสียหายเสมือนสู้เอง
ประวัติ ร็อค ลี
ร๊อค ลี นิ นจาที่ไม่เก่งเรื่องคาถาและวิชา แต่ก็ทดแทนด้วยการฝึกการต่อสู้แบบกระบวนท่าที่ได้รับถ่ายทอดมาจาก อาจารย์ไก (รวมถึงทรงผมบรูซ ลี นั่นด้วย) ร๊อค ลี เป็นนินจาที่มีความอุตสาหะสูงสุด เพราะความที่ตนเองไม่เก่งเรื่องคาถา ทำให้เขาพัฒนาตนเองจนเป็นกำลังสำคัญของโคโนะฮะ หลังการต่อสู่อย่างหนักกับกาอาระทำให้ร่างกายบอบช้ำหนักจนเกือบจะต้องยุติ เส้นทางนินจาไปแล้ว แต่ด้วยพลังใจที่ไม่สิ้นสุดของเขา หลังได้รับการผ่าตัดจากซึนาเดะ เขาได้กลับมาในวิถีนินจาอีกครั้ง และฝึกฝนเปิดประตูจักระได้ 5 ใน 8 ส่วน
ข้อมูลส่วนตัววันเกิด : 27 พฤศจิกายน
กรุ๊ปเลือด : A
แคว้น : โคโนะฮะ
เพื่อนสนิท : ฮิวงะ เนจิ, เทนเทน
อาจารย์ : ไมโตะ ไก
กรุ๊ปเลือด : A
แคว้น : โคโนะฮะ
เพื่อนสนิท : ฮิวงะ เนจิ, เทนเทน
อาจารย์ : ไมโตะ ไก
ประวัติ ชิโนะ
ประวัติเกิด : 23 มกราคม
อายุ : 12 ปี
กรุ๊ปเลือด : AB
สูง : 156.2 ซม.
น้ำหนัก : 45.8 กก.
ของที่ชอบ : ไม่ทราบ
สิ่งที่เกลียด : ไม่ทราบ
ความฝัน : ไม่ทราบ
งานอดิเรก : ไม่ทราบ
ข้อมูลโดยทั่วไปแบบย่อ : เป็นคนในตระกูลอากิมิจิ มีลักษณะอ้วนกลมเพราะว่ากินแบบไม่หยุด เลี้ยงแมลงไว้ภายในร่างกาย โดยใช้จักระของตนให้แมลงกินเป็นอาหาร
อายุ : 12 ปี
กรุ๊ปเลือด : AB
สูง : 156.2 ซม.
น้ำหนัก : 45.8 กก.
ของที่ชอบ : ไม่ทราบ
สิ่งที่เกลียด : ไม่ทราบ
ความฝัน : ไม่ทราบ
งานอดิเรก : ไม่ทราบ
ข้อมูลโดยทั่วไปแบบย่อ : เป็นคนในตระกูลอากิมิจิ มีลักษณะอ้วนกลมเพราะว่ากินแบบไม่หยุด เลี้ยงแมลงไว้ภายในร่างกาย โดยใช้จักระของตนให้แมลงกินเป็นอาหาร
อะบุราเมะ ชิโนะมีอาจารย์ผู้สอน คือ ยูฮิ คุเรไน มีประโยคที่กินใจ คือ "แม้ว่าคู่ต่อสู้ของเราจะตัวเล็ก แต่ไม่ควรประเมินค่ามันต่ำเกินไป"
อะบุราเมะ ชิโนะ จากหมู่บ้านของโคโนฮะ ชิโนะ เป็นคนของตระกูล อะบุระเมะ ความสามารถหลักคือการควบคุมแมลง แมลงเหล่านี้ถูกนำเข้าไปเลี้ยงในร่างกายของคนในตระกูล อะบุระเมะ โดยแมลงที่พวกเขาเลี้ยงใว้จะกินจักระของเจ้าของเป็นอาหาร เพื่อแลกเปลี่ยนกับการบังคับแมลงเพื่อใช้ในการต่อสู้ตามที่ต้องการ
ชิโนะ มีส่วนอยู่ด้วยในสถานที่ ที่ในใช้การสอบไล่จูนินในโคโนฮะแต่หมู่บ้าน ไม่พิจารณายศนินจา จูนินกับเขา ในเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ชิโนะได้ไล่ตามไปปะทะ กับ คันคุโร่ และได้รับชัยชนะมา แต่ชิโน ก็บาดเจ็บมาก แต่ก็รอดมาได้เพราะมีพ่อมาช่วย
เขาได้แสดงฝีมืออีกครั้ง เมื่อ ได้รวมทีมกับนารูโตะ ตามหา ซาสึเกะ โดยเขาได้พบกับ โทบิ ซึ่งเขาได้แสดงวิชาแมลงที่ร้ายกาจมากออกมา นับว่าเป็น นินจาที่มีฝีมือสูงคนนึง
ประวัติ โจจิ
อาคิมิจิ โชจิ นินจาจากหมู่บ้านโคโนฮะ เข้าสอบจูนินพร้อมเพื่อนร่วมทีม นารา ชิกามะรุ และ ยามานากะ อิโนะ โดยการสอบข้อเขียนรอบแรก ผ่านได้อย่างง่ายดาย โดยอิโนะใช้วิชานินจามาสิงร่างและเขียนคำตอบให้ ในการสอบรอบที่สองในป่า ในการสอบรอบคัดเลือก่อนเข้ารอบสุดท้าย ได้จับคู่เจอกับ โดซึ คินุตะ นินจาจากหมู่บ้านโอะโตะ และพ่ายแพ้ไป
ต่อมาในภารกิจตามตัวอุจิวะ ซาสึเกะกลับมา โดยการนำของ นารา ชิกามะรุ ในระหว่างที่ตามตัว โชจิได้ต่อสู้กับจิโรโบ 1 ใน 4 ลูกศิษย์ของโอโรจิมารุ โดยในระหว่างต่อสู้ โชจิได้ใช้ยานินจาของตระกูล โดยยาที่กินจะทำให้ชีวิตของผู้ใช้สั้นลง การต่อสู้สิ้นสุดลงโดยโชจิใช้ยาครบทั้ง 3 ก้อน และจิโรโบพ่ายแพ้ลง หลังจากนั้นโชจิ ได้พยายามจะตามกลุ่มของชิกามะรุ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และได้สลบไป
ท่าไม้ตาย
- รถถังมนุษย์
- รถถังหนามมนุษย์
- ขายยร่างเฉพาะส่วน
- ขยายร่างมหายักษ์
- ฝ่ามือตบทำลาย
- ยาเม็ด 3 สี
ประวัติ สัตว์หางทั้ง9
1ชูคาคุ
.อิ จิบิ โนะ ชูคาคุ (一尾の守鶴, Ichibi No Shukaku) สัตว์หางเจ้าแห่งทราย มีอีกชื่อหนึ่งว่าภูตทราย รูปแบบแรคคูน มี1หาง มีความสามารถในการควบคุมทราย เชื่อกันว่ามีระดับวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 8 และมีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 9 เป็นเจ้าแห่งทะเลทราย ก่อนหน้าที่จะถุกแสงอุษาแย่งชิงไปเคยสถิตอยู่ในร่างของ กาอาระ....
2เนโกะมาตะ
.นิ บิ โนะ เนโกะมาตะ (ニ尾の猫俣, Nibi no Nekomata) สัตว์หางเจ้าแห่งวิญญาณ รูปแบบแมว มี2หาง เคยสถิตอยู่ในร่างของ ยูกิโตะ นิอิ ซึ่งเป็นนินจาหญิงแห่งหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ ก่อนจะถูกแสงอุษาแย่งชิงมา เนโกะมาตะ มีความสามารถในการดูดกลืนวิญญาณเป็นอาหาร เชื่อกันว่ามีวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 4 แต่มีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 8
3อิโซนาเดะ
ซาน บิ โนะ อิโซนาเดะ (三尾, Sanbi) สัตว์สามหาง เจ้าแห่งน้ำรูปร่างคล้ายตะพาบ (ในตำนานระบุว่าเป็นสัตว์คล้ายฉลาม) ไม่มีร่างสถิต (แต่ในตอนที่420ได้มีรูปแล้วเขียนว่าสัตว์หาง ในรูปเป็นชายชูมือ3นิ้วมีสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นนินจาของคิริ)มีความสามารถใน การควบคุมกระแสน้ำและคลื่น เชื่อกันว่ามีระดับวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 6 และมีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 7 ในแอะนิเมะ ถูกเรียกออกมาจากแม้น้ำโดย ฮินาตะ ซากุระ อิโนะ และ ชิซึเนะ (เฉพาะแอะนิเมะ)
4โซโค
.ยอน บิ โนะ โซโค (四尾, Yonbi) สัตว์หางเจ้าแห่งพิษ สี่หาง มีรูปร่างผสมกันคล้ายแมลงพิษ หรือบางตำนานว่าเป็นสัตว์รูปร่างคล้ายไก่ผสมกับงู ถนัดในการใช้พิษสังหารและการวางยาพิษ มีวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 9 และมีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 6
5โฮโก
โก บิ โนะ โฮโก (五尾, gobi) ห้าหางเจ้าแห่งการลวงตา เป็นสัตว์หางรูปแบบสุนัข มีความสามารถในการควบคุมธาตุทั้งห้า ได้แก่ ดิน น้ำ ลม ไฟ และสายฟ้า เชื่อว่ามีระดับวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 3 และมีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 5
6ไรจู
โร คุบิ โนะ ไรจู (六尾, rokubi) หกหาง สัตว์หางหน้าตาคล้ายตัววีเซิลเป็นเจ้าแห่งสายฟ้า มีวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 5 และมีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 4
7คาคุ
ชิ จิบิ โนะ คาคุ (七尾, shichibi) เจ็ดหาง สัตว์หางรูปร่างเป็นตัวแบดเจอร์ที่มันคล้ายๆหมีมุดดิน เป็นจ้าวแห่งดิน สามารถควบคุมแผ่นดินได้ตามต้องการไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนแผ่นดินหรือหรือ หรือคลื่นสั่นสะเทือนใต้พื้นดิน มีวิชาคาถาอยู่ในอันดับที่3และมีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 3
8ยามาตะ
ฮัจ จิบิ โนะ ยามาตะ (八尾, Hachibi) รูปแบบอสูรวัวหางปลาหมึก[1]มี นินจาคุโมะกาคุเระเป็นร่างสถิต ตามตำนานญี่ปุ่นมีอีกชื่อว่า ยามาตะ โนะ โอโรจิ (แปลว่า งู) ซึ่งเป็นงูที่มีแปดหัวแปดหาง แตกต่างจากในเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ยามาตะเป็นเจ้าแห่งภูติผีปีศาจ ควบคุมเหล่าปิศาจและมีอำนาจในโลกแห่งความตาย มีปริมาณจักระและลำดับของวิชาคาถาอยู่ในลำดับที่ 2 อย่างไรก็ตามมีอสูรอีกตนเคยปรากฏตัวออกมาในเนื้อเรื่องและมีลักษณะใกล้เคียง กับยามาตะเช่นกันนั่นคือคาถานินจาของโอโรจิมารุในขั้นสุดท้าย ซึ่งได้ปรากฏตัวออกมาตอนที่ซาสึเกะสู้กับอิทาจิ เป็นร่างของงูขาวยักษ์แปดหัวที่สิงสู่อยู่ในร่างของซาสึเกะ และถูกวิชาเนตวงแหวนสึซาโนะโอะปราบลงได้
...........ซึ่ง ในเนื้อเรื่อง8หางถูกแสงอุษาจับได้แล้ว เพราะพ่ายแพ้ให้กับวิชาเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา วิชาเทวีสุริยา =เพลิงสีดำ ของซาสึเกะแต่ภายหลังพบว่าแปดหางยังไม่ตายเพราะได้ใช้คาถาบางอย่างซ่อนตัว ไว้ในน้ำ
...........ซึ่ง ในเนื้อเรื่อง8หางถูกแสงอุษาจับได้แล้ว เพราะพ่ายแพ้ให้กับวิชาเนตรวงแหวนกระจกเงาหมื่นบุปผา วิชาเทวีสุริยา =เพลิงสีดำ ของซาสึเกะแต่ภายหลังพบว่าแปดหางยังไม่ตายเพราะได้ใช้คาถาบางอย่างซ่อนตัว ไว้ในน้ำ
9คิวบิ
.คิว บิ โนะ โยโค (九尾の妖狐, Kyūbi no Yōkō) สัตว์หางรูปแบบจิ้งจอก มีความเชื่อกันว่ามีพลังมากที่สุดในบรรดาสัตว์หาง หมายถึงปริมาณจักระและระดับของวิชาคาถาอยู่ในระดับสูงสุด ถูกผนึกอยู่ในร่างของ นารูโตะ โดยอดีตโฮคาเงะรุ่นที่สี่ ใช้คาถาอัญเชิญทูตมรณะในการดึงวิญญาณของเก้าหางแล้วใช้คาถาผนึกหกวิถี กักขังจิ้งจอกเก้าหางไว้ ในร่างของนารุโตะ(แต่กักขังพลังไว้เพียงครึ่ง)ตั้งแต่ยังเป็นทารก ท่านรุ่นที่สี่นั้นก็คือพ่อของนารูโตะเช่นกัน(มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ารุ่น สี่คือพ่อของนารูโตะ เพราะ รุ่นสี่ได้ขอร้องรุ่นสามไว้ว่าอย่าบอกใคร) เนื่องจากอยากให้ทุกคนคิดว่านารูโตะเป็นวีระบุรุษที่ช่วยโคโนฮะ แต่ทุกคนกลับคิดว่านารูโตะคือปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง จึงไม่มีใครอยากคบด้วย แต่ เมื่อนานไปนารูโตะก็มีเพื่อนมากมายและเป็นที่ยอมรับของใครหลายๆคน
ตอนที่ 1
ตอนที่ 3
ตอนที่ 4